เมื่อวันที่ 12 ก.ค. เป็นอีกปมร้อนที่ปะทุขึ้นตั้งแต่เริ่ม เรื่องร้อนๆ รอบนี้เกิดขึ้นในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อเกิดศึกแย่งห้องทำงานกันระหว่าง 2 รมช.เกษตรฯ คือ ทีมงานนายประภัตร โพธสุธน รมช.เกษตรฯ จากพรรคชาติไทยพัฒนา กับทีมงาน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรฯ จากพรรคพลังประชารัฐ

โดยทั้งนายประภัตร และร.อ.ธรรมนัส ต่างส่งทีมงานเข้ามาตรวจดูสถานที่ห้องทำงาน จากนั้นทีมงานของรัฐมนตรีช่วยทั้ง 2 คน ต่างก็แสดงความต้องการห้องด้านปีกซ้ายของกระทรวงซึ่งเป็นห้องใหญ่ ขณะที่ห้องด้านปีกขวามีขนาดเล็กกว่า และรัฐมนตรีช่วย 2 คนต้องอยู่ด้วยกัน

สำหรับห้องด้านปีกซ้ายของอาคารกระทรวง เป็นห้องเดิมที่นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร หรืออาจารย์ยักษ์ อดีตรมช.เกษตรฯ เคยอยู่ โดยในห้องใหญ่แบ่งออกเป็นห้องประชุม และห้องรับประทานอาหาร รวมถึงอยู่ติดกับห้องวอร์รูมสถานการณ์น้ำที่มีเครื่องมืออุปกรณ์ทันสมัย สร้างโดยใช้งบประมาณของกรมชลประทานซึ่งทางกระทรวงฯ เห็นว่ามีประโยชน์ จึงไม่ได้รื้อออก

ส่วนห้องปีกขวาของอาคาร เป็นห้องขนาดเล็ก ไม่สะดวกสบายเท่าห้องปีกซ้าย นอกจากนี้มีคำร่ำลือกันว่า ใครอยู่ห้องปีกขวาจะทำงานไม่สะดวก หรือมีอันต้องหลุดจากเก้าอี้ในเวลาอันรวดเร็วไม่เกิน 3 เดือน 6 เดือน เนื่องจากมีการทำพิธีไสยศาสตร์และของเขมรใส่ไว้

โดยในเรื่องของความเชื่อในกระทรวงเกษตรฯ นี้ มีมาหลายยุคหลายสมัย เพราะสมัยที่พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ มารับตำแหน่ง รมว.เกษตรฯ ห้องรัฐมนตรีจะอยู่ชั้น 2 โดยบริเวณชั้น 1 ตรงกับห้องรัฐมนตรีจะมีรูปปั้นพระพิรุณ ตั้งอยู่ให้ผู้คนกราบไหว้ ทำให้สร้างความกังวลและหวั่นใจให้กับพล.อ.ฉัตรชัย จนต้องทำพิธีแก้ไปแล้ว