ประธานกระอัก! ฝ่ายค้านจัดหนัก“ชวน” ซัดไม่เป็นกลาง ยื้อโหวตตั้งกมธ.เต็มสภา

ถกข้อบังคับการประชุมวันที่สอง ฝ่ายค้าน รุมซัด “ชวน” ไม่เป็นกลาง ยื้อโหวตตั้งกมธ.เต็มสภา หวังงบ 14 ล้านเหลือใช้ ด้าน นายหัว สวนกลับ ไม่มี คนอาจมีประสบการณ์เท่านั้นถึงคิดได้ สุดท้ายจบที่ตั้งกมธ.วิสามัญฯ

เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธาน เพื่อพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. …. เป็นวันที่ 2 หลังจากที่เมื่อช่วงค่ำวันที่ 10 กรกฎาคมที่ผ่านมา หลังมีสมาชิกเสนอญัตติแข่งกันในวิธีการพิจารณาร่างข้อบังคับฯในวาระสองระหว่าง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย ที่เสนอให้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาฯเพื่อพิจารณา กับ นายเทอดพงษ์ ไชยนันท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ที่เสนอให้ตั้งกมธ.วิสามัญเพื่อพิจารณา แต่นายชวนได้สั่งพักการประชุม โดยให้เหตุผลว่า จะไปหารือกับนายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการยกร่างข้อบังคับฯว่า แบบไหนจะใช้เวลาพิจารณาเท่าไหร่ จนกระทั่ง ส.ส.พรรคเพื่อไทย ลุกขึ้นประท้วงนายชวนอย่างหนักถึงความเป็นกลางในการทำหน้าที่ประธาน

ทั้งนี้ เมื่อเข้าสู่วาระ นพ.ชลน่าน ได้ลุกขึ้นถามถึงผลการหารือ โดยนายชวน ชี้แจงว่า ประธานกรรมาธิการฯให้ข้อคิดว่า หากตั้งเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ อาจใช้เวลาพิจารณาช่วงวันที่ 22 – 24 กรกฎาคมนี้ แต่มีการแจ้งเป็นการภายใน ว่ารัฐบาลอาจจะขอแถลงนโยบายวันที่ 24 กรกฎาคมต่อจากการถวายสัตย์ปฏิญาณ ดังนั้น ระเบียบข้อบังคับการประชุมฯอาจออกได้ช่วงปลายเดือนกรกฎาคม แต่หากตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภา หากพิจารณาไม่เสร็จในวันนี้ ก็อาจต้องเปิดประชุมต่อในวันที่ 18 กรกฎาคม แต่ปกติเมื่อมีการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ สภาจะต้องหยุดการพิจารณาไว้เพื่อรอให้ครม.ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน จึงจะกลับมาประชุมใหม่อีกครั้ง ซึ่งจะใช้เวลานาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศก่อนการลงมติในญัตติขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการเต็มสภาฯหรือไม่ ค่อนข้างตึงเครียด โดยส.ส.ฝ่ายค้านหลายคน ได้ลุกขึ้นประท้วงว่า ประธานสภาฯไม่เป็นกลาง และละเมิดสิ่งที่สมาชิกตัดสินใจ ทั้งที่ประธานสภาฯมีหน้าที่ทำตามระเบียบข้อบังคับ ขณะที่ นพ.ชลน่าน ตั้งข้อสังเกตเรื่องงบประมาณในการตั้งคณะกรรมาธิการแต่ละคณะ คณะละ 14 ล้านบาท ว่าหากตั้งคณะกรรมาธิการไม่ทันปีนี้ งบส่วนดังกล่าวจะเป็นงบเหลือจ่าย ซึ่งเป็นอำนาจของประธานสภาฯพิจารณาว่า จะนำไปใช้อย่างไร ทำให้ นายชวน สวนทันทีว่า ตนไม่เคยรู้เรื่องและไม่มีผลประโยชน์อะไรทั้งสิ้น ตนมาจากโลกการเลือกตั้งที่ไม่ซื้อเสียง แต่อาจเป็นเรื่องที่สมาชิกที่มีประสบการณ์แบบนั้น ทั้งนี้ สิ่งที่ตนเสนอแนะก็เพื่อประโยชน์ของสภา ซึ่งเป็นเจตนาดี ทุกอย่างทำด้วยความปรารถนาดี ไม่ได้เข้าข้างฝ่ายใด และเสียดายที่ถูกมองเจตนาดีเป็นเรื่องผลประโยชน์

กระทั่ง ที่ประชุมลงมติเห็นชอบให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ด้วยคะแนน 242 เสียง ต่อ 232 งดออกเสียง 1 เสียง ตั้งกรรมาธิการฯ 39 คน แปรญัตติภายใน 7 วัน

มติชนออนไลน์