แกนนำเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนยางพาราตรัง ร้องรัฐมนตรีป้ายแดงเร่งแก้ปัญหาราคายางตกต่ำ

วันที่ 11 กรกฎาคม 2562 นายประทบ สุขสนาน ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง จ.ตรัง และภาคใต้ตอนกลาง กล่าวว่า ก่อนหน้านี้ราคายางพาราปรับราคาขึ้นมาแล้ว โดยราคายางแผ่นรมควันอยู่ที่ก.ก.ละ 60.50 บาท ได้เพียง 1 วัน ราคาน้ำยางสดรับซื้อที่สถาบันเกษตรกรที่ราคา ก.ก.ละ 53 บาท ขณะที่พ่อค้ารับซื้อน้ำยางสดทั่วไปอยู่ที่ก.ก.ละ 50 บาท แต่ในระยะเวลาไม่ถึงเดือนราคากลับดิ่งกลับไปไม่ถึงก.ก.ละ 60 บาท ทำให้เกษตรกรชาวสวนยางซึ่งเริ่มมีความหวังกลับต้องมาเดือดร้อนหนักอีกครั้ง

นายประทบ กล่าวว่า ขณะนี้ราคาน้ำยางสดลดลงเหลือ ก.ก.ละ 41 – 42 บาทเท่านั้น จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลชุดใหม่หันมาสนใจปัญหา โดยเฉพาะหน่วยงานที่รับผิดชอบเรื่องยางพาราโดยตรงนั่นคือ การยางแห่งประเทศไทย(กยท.) โดยเฉพาะหน่วยธุรกิจของการยางแห่งประเทศไทย ออกมาแก้ปัญหาเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อปัญหาที่เกิดขึ้น โดยขณะนี้ส่วนที่กระทบหนักที่สุดขณะนี้คือ พี่น้องเกษตรกรที่รวมตัวกันผลิตยางแผ่นรมควัน และสถาบันเกษตรกรซึ่งมีอยู่เป็นจำนวนมาก เพราะซื้อน้ำยางสดในราคาที่สูง แต่ราคายางกลับลดลงทุกวันๆละประมาณ 1-2 บาท ทำให้ขาดทุน

“สาเหตุหลักเกิดจากการบริหารจัดการของหน่วยธุรกิจ(BU) ของ กยท. ที่เดิมเข้าประมูลยางพาราในตลาดกลางทั้ง 3 แห่งพร้อมกัน(สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา) แต่ที่ผ่านมาเลือกที่จะเข้าประมูลทีละตลาดและประมูลในราคาที่สูงกว่าราคาเป็นจริงวันละ 3-4 บาทต่อกก. ทำให้ตลาดล่ม เพราะบริษัทเอกชนที่เข้าประมูลแข่งสู้ไม่ได้ และประกาศไม่รับซื้อยางจากเกษตรกร เพราะราคาสูงเกินจริง ผู้บริหารการยางแห่งประเทศไทย และหน่วยธุรกิจต้องทบทบทวนการทำงาน และเรียกร้องให้รัฐบาลกำกับการทำงานของ กยท.และหน่วยธุรกิจ กยท.ให้ใกล้ชิด อย่าปล่อยให้เกษตรกรเดือดร้อน”นายประทบกล่าว

ขณะที่ นายถนอมเกียรติ ยิ่งฉ้วน ที่ปรึกษาประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขณะนี้ได้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์คนใหม่แล้ว เป็นคนของพรรคประชาธิปัตย์ ส่วนตัวแม้จะไม่เคยเห็นฝีมือการทำงานแก้ยางหรือสินค้าเกษตรของรัฐมนตรีหน้าใหม่มาก่อน แต่ต้องดูทีมทำงานของพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเคยทำงานแก้ปัญหาราคายางมาก่อน และอยู่กับคนภาคใต้รู้ปัญหาเป็นอย่างดี เชื่อว่าจะสามารถทำงานได้ แต่อยากเรียกร้องให้เร่งแก้ปัญหา เพราะเชื่อว่าราคายางยังจะตกต่ำลงไปอีก และรู้สึกสัญญาณไม่ดี เหมือนมีการตั้งใจให้เกิด เพื่อเปิดทางให้กลุ่มทุนมีการช้อนซื้อตอนราคาต่ำสุด เพื่อรอขายในขณะราคาขึ้น

“พร้อมกับให้เร่งส่งเสริมการใช้ยางในหน่วยงานแม้ ครม.จะอนุมัติงบให้กองบัญชาการกองทัพไทยและกองทัพบกดำเนินโครงการสนับสนุนการใช้ยางพาราในหน่วยงานภาครัฐ เป็นจำนวน 670 เส้นทาง ระยะทางรวม 1,744.138 กิโลเมตร ปริมาณการใช้ยางพารา จำนวน 17,435.040 ตัน งบประมาณรวมทั้งสิ้น 2,568,783,400 บาท แต่เชื่อว่าเป็นแค่จิตวิทยาเท่านั้น ช่วยให้ราคาสูงขึ้นไม่ได้ แต่อยากให้เร่งให้ทุกกระทรวงขานรับนโยบายใช้ยางให้มากที่สุด และอยากให้รัฐบาลเร่งประกาศนโยบายในการแก้ไขปัญหาราคายางให้ชัดเจน เชื่อว่าราคาก็จะลดต่ำลงอีก ก่อนที่ราคาจะร่วงต่ำลงไปอยู่ทที่ 3 กิโลกรัม 100 บาทเหมือนที่ผ่านมา”นายถนอมเกียรติกล่าว