‘กสทช.’ ไม่เบี้ยว!! เตรียมควัก 1,383 ลบ. จ่าย 4 ช่องทีวีดิจิทัลคืนไลเซนส์

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. ได้เห็นชอบกรอบวงเงินชดเชยช่องวอยซ์ทีวี จำนวน 378 ล้านบาท กรณีขอคืนใบอนุญาต ตามมติคณะอนุกรรมการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขในการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล (คณะอนุกรรมการเยียวยา) โดยให้มีการยุติการออกอากาศในวันที่ 1 กันยายน 2562

นอกจากนี้ มติที่ประชุม กสทช ได้อนุมัติในหลักการ เรื่องการคุ้มครองผู้บริโภค ตามที่กำหนดไว้ให้ดำเนินการไม่น้อยกว่า 45 วัน และให้มีการประชาสัมพันธ์ตามที่ กสทช. กำหนดไว้ ไม่ต้องเสนอต่อที่ประชุม กสทช. อีก ให้เป็นวาระเพื่อทราบเท่านั้น ทำให้ขั้นตอนการพิจารณาของ 3 ช่องที่เหลือ ได้แก่ ช่อง 13 (ช่อง 3 แฟมิลี่), ช่อง 28 (ช่อง 3 เอสดี) และช่อง 14 (เอ็มคอตแฟมิลี่) รวดเร็วขึ้น และเมื่อมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการเยียวยากำหนดกรอบวงเงินชดเชยแล้วให้ถือเป็นมติที่ประชุม กสทช.

นายฐากร กล่าวว่า สำหรับช่อง 14 (เอ็มคอตแฟมิลี่) ที่จะมีการเสนอต่อที่ประชุมคณะอนุกรรมการเยียวยา มียอดเงินประมูลใบอนุญาต 660 ล้านบาท โดยมีการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว 4 งวด เป็นเงิน 452 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นค่าธรรมเนียมคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นเงิน 289 ล้านบาท หักผลประโยชน์ที่ได้รับระหว่างประกอบกิจการ ถึงวันที่ 15 กันยายน 2562 รวม 63 ล้านบาท ได้แก่ ค่าเช่าโครงข่ายภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล (มักซ์) จำนวน 28 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายในการส่งสัญญาณผ่านดาวเทียมตามเกณฑ์ (มัสต์แครี่) จำนวน 34 ล้านบาท รวมค่าชดเชยที่จะได้รับ (ถึงวันที่ 15 กันยายน 2562) เป็นเงินจำนวน 226 ล้านบาท หักค่าใบอนุญาตงวดที่ 4 ที่ค้างชำระพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 63 ล้านบาท ดังนั้น ช่องจะได้รับค่าชดเชยสุทธิ เป็นเงินจำนวน 163 ล้านบาท

ส่วนช่อง 13 (ช่อง 3 แฟมิลี่) ยอดเงินประมูลใบอนุญาต 666 ล้านบาท โดยมีการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว 4 งวด เป็นเงิน 455 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นค่าธรรมเนียมคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นเงิน 290 ล้านบาท หักผลประโยชน์ที่ได้รับระหว่างประกอบกิจการ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 รวม 64 ล้านบาท ได้แก่ ค่าเช่ามักซ์ จำนวน 28 ล้านบาท และค่ามัสต์แครี่ จำนวน 35 ล้านบาท รวมค่าชดเชยที่จะได้รับ (ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562) เป็นเงินจำนวน 226 ล้านบาท หักค่าใบอนุญาตงวดที่ 4 ที่ค้างชำระพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 63 ล้านบาท ดังนั้น ช่องจะได้รับค่าชดเชยสุทธิ เป็นเงินจำนวน 162 ล้านบาท

ขณะที่ ช่อง 28 (ช่อง 3 เอสดี) ยอดเงินประมูลใบอนุญาต 2,275 ล้านบาท โดยมีการชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาตแล้ว 4 งวด เป็นเงิน 1,517 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็นค่าธรรมเนียมคลื่นความถี่ที่ไม่ได้ใช้งาน เป็นเงิน 967 ล้านบาท หักผลประโยชน์ที่ได้รับระหว่างประกอบกิจการ ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562 รวม 64 ล้านบาท ได้แก่ ค่าเช่ามักซ์ จำนวน 28 ล้านบาท และค่ามัสต์แครี่ จำนวน 35 ล้านบาท รวมค่าชดเชยที่จะได้รับ (ถึงวันที่ 30 กันยายน 2562) เป็นเงินจำนวน 903 ล้านบาท หักค่าใบอนุญาตงวดที่ 4 ที่ค้างชำระพร้อมภาษีมูลค่าเพิ่ม จำนวน 223 ล้านบาท ดังนั้น ช่องจะได้รับค่าชดเชยสุทธิ เป็นเงินจำนวน 680 ล้านบาท

“กรอบวงเงินชดเชยของช่อง 13 (ช่อง 3 แฟมิลี่) และช่อง 28 (ช่อง 3 เอสดี) ดังกล่าว อาจมีความคลาดเคลื่อนเล็กน้อย เพราะทั้ง 2 ช่องเพิ่งส่งหนังสือถึง กสทช. เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา จึงไม่สามารถเข้าสู่ที่ประชุมคณะอนุกรรมการเยียวยาได้ทัน จึงจะจัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนออีกครั้ง ส่วนแผนการคุ้มครองพนักงานที่ถูกเลิกจ้างของทั้ง 2 ช่อง ให้เป็นไปตามที่กฎหมายแรงงานกำหนด และมีค่าเพิ่มพิเศษชดเชยตั้งแต่ 1 เดือนขึ้นไป ส่วนทุกช่องที่ยุติการออกอากาศแล้ว สามารถทำเรื่องขอคืนเงินต่อสำนักงาน กสทช. ได้ในวันถัดไป” นายฐากร กล่าว

นายฐากร กล่าวว่า ส่วนการสนับสนุนการจัดทำข้อมูลค่าความนิยมเฉลี่ย (เรตติ้ง) ตามคำสั่ง คสช.ที่ 4/2562 เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม ให้กับสมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล สำนักงาน กสทช. มีข้อห่วงใยในหลายเรื่อง จึงจะมีการนัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง เช่น สมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลทุกช่อง ผู้ซื้อสื่อโฆษณา รวมถึงผู้จัดทำเรตติ้ง ในวันที่ 25 กรกฎาคมนี้ เพื่อทราบถึงแนวทางในการจัดทำเรตติ้งที่ถูกต้อง และเป็นธรรม

มติชนออนไลน์