เผยแพร่ |
---|
“บิ๊กตู่” เผย ได้รับผลกระทบจากโซเชียล สั่งจับตาการปลุกปั่น ใช้ความรุนแรง แบ่งขั้วประชาชน แนะสร้างภูมิคุ้มกันการเสพสื่อ
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงมาตรการป้องปรามการใช้ความรุนแรง ที่ปัจจุบันมีการเผยแพร่ข้อมูลในเชิงการใช้ความรุนแรงอย่างมากในโลกออนไลน์ว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก แม้แต่ตนก็ได้รับผลกระทบจากสังคมโซเชียลมีเดีย ซึ่งไม่สามารถที่จะควบคุมได้มากนัก เพราะจะถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้น ประชาชนจึงต้องเลือกวิธีการเสพข่าวผ่านสังคมโซเชียล เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ตนไม่สบายใจทั้งสองทาง เพราะเรื่องดังกล่าวทำให้เกิดความแตกแยกในสังคมอย่างรุนแรง เกิดความเกลียดชังโดยไม่ใช่เรื่องของตัวเองทั้งสิ้น ถือเป็นการแบ่งข้างประชาชนออกเป็นสองขั้ว ทำให้มีโอกาสที่จะลุกลามบานปลายในอนาคต จึงขอฝากทุกคนให้มีภูมิต้านทานที่ดี โดยเฉพาะข่าวปลอม ข่าวดิสเครดิตต่างๆ และทุกอย่างอยู่ที่จิตสำนึก
“ผมได้สั่งให้ตรวจสอบ เพราะบางทีเกิดข้อสงสัยว่า บางกระแสโซเชียล บางเพจ ก็มาถี่มากในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องไปดูว่าแหล่งข้อมูลมาจากที่ใด แต่บางครั้งอาจเป็นเรื่องที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ มีทั้งเจตนาและไม่เจตนา หรือสร้างเรื่องขึ้นมา ทำให้สังคมสับสนอลหม่าน ก็ต้องไปดูว่ากฎหมายสามารถควบคุมได้มากน้อยเพียงใด จึงขอให้ทุกคนระมัดระวังในกรณีที่เผยแพร่ข่าวสารไม่เป็นจริง ข่าวเท็จ วันนี้สังคมโซเชียลก็มีข่าวที่เป็นประโยชน์อยู่มาก เช่น บังซัน ที่ขายอาหารทะเลตากแห้ง จ.สตูล วันนี้จะทำอะไรขอให้มีสติ อย่าแชร์อะไรที่ยังเป็นข้อสงสัย จะต้องมีการตรวจสอบก่อน มิเช่นนั้นอาจถูกดำเนินการทางกฏหมาย เพราะบางอย่างนั้น เป็นไปไม่ได้ เช่น กรณีที่มีข่าวว่ารัฐบาลจะแจกเงิน อยู่ดีๆรัฐบาลจะแจกเงินได้อย่างไร ในฐานะนายกฯก็ไม่เคยพูด ขออย่าให้คนมาหลอกและปลุกปั่น เช่น กรณีที่มีการฉ้อโกงบัตรพลังงาน เป็นต้น รวมถึงการใบ้หวย ถูกกันบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ซึ่งความจริงก็ผิดกฏหมายอยู่แล้ว แล้วยังจะหลอกลวงคนอื่นอีก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
มติชนออนไลน์