สุพจน์ ชี้กรณี ‘บึ๊กป้อม’ ปราม ‘จ่านิว’ เลิกยุ่งการเมือง ผิดจริยธรรมร้ายแรง ต้องห้ามเป็น รมต.

สุพจน์ ชี้กรณี ‘บึ๊กป้อม’ ปราม ‘จ่านิว’ เลิกยุ่งการเมือง ผิดจริยธรรมร้ายแรง ต้องห้ามเป็น รมต.

เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ ระบุว่าการที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ออกมาปรามและห้าม ‘จ่านิว’ ยุ่งการเมือง ย่อมเป็นสัญญาณและยืนยันได้ว่า 1.พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยอมรับว่า การทำร้ายจ่านิวเกี่ยวข้องกับการเมือง และ 2.จ่านิว รวมถึง บุคคลอื่นที่เคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยเป็นกลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ คสช.และรัฐบาล รวมถึง กลไกความมั่นคงติดตามและเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษ

นายสุพจน์กล่าวอีกว่า การที่ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ “ห้าม” จ่านิว “ยุ่งการเมือง” เป็นการกระทำที่ “ละเมิดสิทธิมนุษยชน ทำลายศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” และผิด หรือ ขัดกับบทบัญญัติเรื่องสิทธิและเสรีภาพของจ่านิวในฐานะ “คนไทย” ตามที่มีการบัญญัติไว้ใน หมวด 3 (สิทธิและเสรีภาพของปวงชนชาวไทย) ของรัฐธรรมนูแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560

นอกจากนี้ การกระทำของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ยังเข้าข่าย หรือ เป็นกระทำการที่ขัดและย้อนแย้งกับ พระราชบัญญัติมาตรฐานจริยธรรม พ.ศ.2562 อย่างร้ายแรง คือ ไม่ยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2560 ดังนั้น พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงเข้าลักษณะต้องห้ามในการเป็น “รัฐมนตรี”

นายสุพจน์ อาวาส โฆษกพรรคประชาชาติ