ตร.เชื่อคนทำร้าย”จ่านิว” วางแผนมาอย่างดี หลบหนีมุมกล้องเก่ง

เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 3(บก.น.3) พล.ต.ต.นิตินันท์ เพชรบรม รองผบช.น. เรียก พล.ต.ต.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ชาญวิทย์ พุ่มโพธิ์ รองผบก.น.3 พ.ต.อ.คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.ถนัด นักธรรม ผกก.สส.บก.น.3 พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางชัน ที่เฝ้าบ้านนายสิรวิชญ์ เข้าร่วมประชุมเร่งรัดและสืบสวนหาตัวคนร้ายด้วย โดยใช้เวลาประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง
รายงานข่าวแจ้งว่าขณะนี้อยู่ระหว่างการเรียงลำดับเหตุการณ์ โดยช่วงระหว่างวันที่ 20-24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมีการติดตามความเคลื่อนไหวของ นายสิรวิชญ์ เพราะเป็นนักเคลื่นไหวทางการเมือง เนื่องจากระหว่างวันที่ 22-23 มิถุนายน เป็นช่วงระหว่างที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียน โดยทางตำรวจ สน.บางชัน มีการดูแลติดตาม นายสิรวิชญ์ ไปที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถึงวันที่ 24 มิถุนายน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่ได้ติดตาม ต่อมาวันที่ 27 มิถุนายน จากคำให้การของ น.ส.พัฒน์นรี ชาญกิจ มารดานายสิรวิชญ์ รู้สึกว่ามีคนพยายามติดตามตัวแต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่ได้เห็นหน้า กระทั่งวันที่ 28 มิถุนายน นายสิรวิชญ์ ถูกทำร้ายร่างกาย

รายงานข่าวแจ้งอีกว่านอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อหาพยานหลักฐานที่ยังคงหลงเหลือให้ได้มากที่สุด โดยมีการสอบปากคำพยานไปแล้วจำนวน 9 ปาก ทั้งบุคคลที่อาศัยอยู่ในซอยเดียวกัน และมีการแยกตรวจสอบอาวุธว่าอาวุธที่ใช้ก่อเหตุมีลักษณะเป็นอย่างไร รวมไปถึงตรวจสอบยานพาหนะที่ใช้ในการหลบหนีพบว่าเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นพีซีเอ็กซ์ โดยจะให้ผู้เชี่ยวชาญมายืนยันอีกครั้ง

รายงานข่าวแจ้งว่า เชื่อว่ากลุ่มคนร้ายไม่ใช่บุคคลในพื้นที่แต่จะต้องมีการวางแผนมาเป็นอย่างดีเนื่องจากว่าการหลบหนีนั้นคนร้ายรู้ทุกจุดที่มีกล้องมีการหลบมุมกล้อง ซึ่งจุดสุดท้ายที่กล้องวงจรปิดจับภาพคือหน้าโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี สำหรับข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ว่ามีการสเกตช์ภาพคนร้ายนั้น เป็นการสเกตช์ภาพตำหนิ รูปพรรณ สัณฐาน ส่วนสูง ผิวพรรณ พร้อมทั้งสเกตช์ภาพรถจักรยานยนต์ที่ใช้ ว่ามีลักษณะใด แต่ยังไม่มีการขอออกหมายจับแต่อย่าง

มติชนออนไลน์