สืบเนื่องกรณี ในช่วงสายของวันที่ 27 มิถุนายน ศาลอาญาอ่านคำสั่งชั้นไต่สวนมูลฟ้องคดีหมายเลขดำ อ.738/2562 ที่ น.ส.ณัฏฐา มหัทธนา แกนนำกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง เป็นโจทก์ยื่นฟ้องบริษัท สารสู่อนาคต จำกัด, บริษัท หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ จำกัด และนายโรจ หรือโรจน์ งามแม้น ประธานกรรมการบริหารหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์และคอลัมนิสต์นามปากกา “เปลว สีเงิน” เป็นจำเลยที่ 1-3 ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา และ พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2560 มาตรา 14 กรณีเมื่อวันที่ 24 ธ.ค.2561 จำเลยทั้งสามได้ร่วมกันนำบทความที่จำเลยที่ 3 เขียนขึ้นเผยแพร่เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ในเว็บไซต์ไทยโพสต์ www.thaipost.net และเฟซบุ๊ก เรื่อง “มีสิทธิ์เป็นทั้งโจทก์-จำเลย” และวันที่ 5 ม.ค. 2562 เรื่อง “อย่าให้คนทรามได้ใจ” ซึ่งเป็นบทความที่มีข้อความหมิ่นประมาทต่อโจทก์ด้วยข้อความอันเป็นเท็จ ใส่ความต่อโจทก์โดยประการที่น่าจะทำให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง

โดยศาลพิเคราะห์ในชั้นไต่สวนมูลฟ้องแล้ว  เห็นว่าการขอให้ลงโทษฐานนำข้อมูลอันเป็นเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ 2560 (ที่แก้ไข) ไม่ใช่กรณีการหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา คำฟ้องโจทก์จึงขาดองค์ประกอบความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ส่วนฟ้องโจทก์ในข้อหาหมิ่นประมาทโดยการโฆษณามีมูลหรือไม่ ที่จำเลยที่ 3 เขียนข้อความทำนองว่าทุเรศ ทราม ต่ำช้ามาก เป็นการทำให้ประชาชนเห็นว่าโจทก์เป็นคนไม่ดี ใช้คำไม่สุภาพ เห็นว่าการใส่ความหมิ่นประมาทนั้นต้องเป็นการยืนยันข้อเท็จจริง ที่จำเลยที่ 3 เขียนเป็นการขยายความต่อจากเรื่องที่เป็นข่าว ตั้งข้อสังเกต แสดงความคิดเห็นความรู้สึกส่วนตัว ไม่ได้สื่อว่าเป็นเรื่องจริงหรือเท็จ ไม่แสดงการหมิ่นประมาท คดีไม่มีมูลให้ยกฟ้อง

ล่าสุด น.ส.ณัฏฐา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กระบุถึงการเตรียมพิจารณาอุทธรณ์ต่อไป

ความว่า

โบว์ได้สื่อสารไว้แต่แรกว่าการฟ้องนี้เป็นไปเพื่อสร้างบรรทัดฐาน โดยเฉพาะกับการทำงานของสื่อมวลชนที่จะมีผลต่อคุณภาพของสังคม การที่ศาลสั่งไม่รับฟ้องคดีเปลวสีเงินในวันนี้จึงถือว่าภารกิจของเรายังไม่สิ้นสุด โบว์และทีมทนายความจะพิจารณาอุทธรณ์คำสั่งต่อไปค่ะ

มติชนออนไลน์