เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ที่ HALL 100 ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสหกรุ๊ปแฟร์ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ว้าวถูกใจทุก Gen” โดยได้กล่าวถึงการปรับลดประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จาก 3.8% เหลือ 3.3% ว่า เป็นไปตามคาดการณ์ไว้เพราะหลังจากเลือกตั้งยังไม่มีรัฐบาลอย่างเป็นทางการ ประกอบกับเศรษฐกิจโลกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐ และทำให้เศรษฐกิจไทยชะลอตัวลง แต่เชื่อว่าหลังจากนี้เศรษฐกิจไทยจะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้น เนื่องจากกำลังจะมีคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่เข้ามาทำงานเพื่อเดินหน้านโยบายอื่นๆ ต่อ

นายสมคิดกล่าวว่า ส่วนเรื่องการเบิกจ่ายงบลงทุนประจำปี 2563 ที่ล่าช้ากว่าปกตินั้น รัฐบาลจะพยายามเร่งเบิกจ่ายงบลงทุนในโครงการพื้นฐานขนาดใหญ่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไปได้ จึงมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะดีกว่าที่ประมาณการไว้ และขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเศรษฐกิจจะเดินหน้าต่อไปได้แน่นอน

นายสมคิดกล่าวว่า ส่วนความกังวลในเรื่องเสถียรภาพในการทำงานของรัฐบาลใหม่ ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลหลายพรรคนั่งในทีมเศรษฐกิจ ไม่ใช่พรรคเดียวเหมือนรัฐบาลชุดปัจจุบันนั้น ยืนยันว่าไม่ใช่ปัญหา เพราะทุกพรรคการเมืองมีเป้าหมายในการพัฒนาประเทศเช่นเดียวกัน เชื่อว่าจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้

นายสมคิด ยังกล่าวถึงการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ (ไอเอ็มดี) ที่ดีขึ้นนั้น เกิดจากการพัฒนาของภาครัฐ ขณะที่ภาคเอกชนเริ่มมีขีดความสามารถปรับตัวลดลง ดังนั้น จึงต้องการเห็นเอกชนรายใหญ่และรายเล็กร่วมกันพัฒนาเทคโนโลยีที่มีศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของตนเองให้ดีขึ้น และขอให้สหพัฒน์ฯเป็นแกนนำในการผลักดันส่งเสริมโครงการธงฟ้าประชารัฐเพื่อกระตุ้นการจับจ่าย และช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้ได้ซื้อของถูกและมีคุณภาพต่อไป

นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า งานสหกรุ๊ปแฟร์เป็นงานที่เครือสหพัฒน์จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี สำหรับปีนี้จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 23 ช่วงวันที่ 27-30 มิถุนายนนี้ ที่ฮอลล์ 98-100 ไบเทค บางนา โดยมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการค้าการลงทุนสินค้าเครือสหพัฒน์ทั้งในและต่างประเทศ ที่สามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างครบถ้วน ภายใต้คอนเซ็ปต์ ว้าวถูกใจทุก GEN เพื่อตอกย้ำว่างานนี้มีสินค้า บริการ และธุรกิจวัฒนธรรมที่หลากหลายตอบโจทย์ความต้องการของคนทุกเจเนอเรชั่น

ทั้งนี้ ภายในงานยังมีการโชว์นวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการลงทุน ช้อปปิ้งสินค้าคุณภาพดีกว่า 1,000 คูหา ประกอบด้วยบูธอาหาร ของใช้ภายในบ้าน เครื่องสำอาง รองเท้า เครื่องใช้ไฟฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย พร้อมบริการส่งฟรีถึงบ้าน และมีการมอบคูปองส่วนลดให้ร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ กว่า 30,000 ราย เพื่อซื้อชุดสินค้าราคาพิเศษมูลค่า 4,000 บาท ในราคาเพียง 2,000 บาท และเพิ่มความพิเศษในการนำสินค้าของดี 4 ภาคจากกรมการค้าภายในกว่า 40 ผลิตภัณฑ์มาจำหน่าย รวมถึงยังเปิดโอกาสให้คนไทยมีงานทำ โดยเปิดบูธรับสมัครงานกว่า 1,500 อัตรา