| เผยแพร่ |
|---|
วันที่ 26 มิถุนายน 2562 นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวหลังเป็นประธานเปิดกิจกรรม “ตลาดนัดประชารัฐวายุภักษ์รักประชาชน ธ.ก.ส. ครั้งที่ 2” ณ ธ.ก.ส. สำนักงานใหญ่ ว่าช่วงนี้เป็นรอยต่อรัฐบาลเก่ากับรัฐบาลใหม่ ซึ่งไม่อยากให้เกิดการสะดุด อยากให้มั่นใจว่างานต่าง ๆ สามารถเดินหน้าไปได้ด้วยดี โดยเฉพาะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ตนอยากให้แบงก์เตรียมมาตรการต่าง ๆ ไว้รับมือสถานการณ์ภัยแล้งที่คาดว่าจะรุนแรงแรงในปีนี้
“ได้ข่าวว่าจะแล้งมาก แบบนี้ชาวนาชาวไร่จะเดือดร้อน ฉะนั้น ธ.ก.ส.ต้องเตรียมพร้อมไว้” นายสมคิดกล่าว
นอกจากนี้ รัฐบาลต้องการผลักดันนโยบายเกษตรอุตสาหกรรมให้เป็นรูปธรรม ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมจะต้องเข้ามาร่วมยกระดับสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าเกษตร โดยทำงานร่วมกับ ธ.ก.ส. แบบประกบตัวลูกค้าเลย
นายสมคิดกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาประเทศไทยพึ่งพา การส่งออกมากเกินไป ทำให้เวลาเศรษฐกิจโลกมีปัญหา เศรษฐกิจไทยก็มีปัญหาตามไปด้วย ดังนั้นสิ่งสำคัญคือต้องสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศ เศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโต ซึ่งต้องอาศัยตลาด ดังนั้นตลาดนัดประชารัฐก็ควรมีต่อไปไม่ว่าจะมีรัฐบาลผสมหรือไม่
นายสมคิดกล่าวด้วยว่า เชื่อว่าครึ่งปีหลังเศรษฐกิจจะดีขึ้น กว่าครึ่งปีแรกที่ติดเรื่องการเมืองที่มีการเลือกตั้ง จึงทำให้ทำอะไรมากไม่ได้ ส่วนครึ่งปีหลังเรื่องต่าง ๆ จะชัดเจน โดยเฉพาะการลงทุน เนื่องจากมีรัฐบาลชุดใหม่สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้เต็มที่ ซึ่งสำหรับ ครม.ชุดใหม่ นายกรัฐมนตรีระบุแล้วว่าจะเห็นในกลางเดือน ก.ค. ดังนั้นจึงไม่มีอะไรน่ากังวล
อย่างไรก็ดี สำหรับกรณีที่นักลงทุนแสดงความไม่มั่นใจในโฉมหน้าทีมเศรษฐกิจรัฐบาลชุดใหม่นั้น นายสมคิด ปฏิเสธให้ความเห็นใด ๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้
