อปท.ทั่วไทย ตบเท้าให้กำลังใจ”นิพนธ์”นั่งรมช.มหาดไทย เจ้าตัวแถลง ยัน ไม่เคยทุจริต

ตัวแทนอปท.หลายจังหวัด ตบเท้า ให้กำลังใจ “นิพนธ์” นั่ง รมช.มหาดไทย เจ้าตัวแถลงย้ำอีกรอบ เคลียร์ทุกข้อกล่าวหา ยัน ไม่เคยทุจริต ลั่นมั่นใจคุณสมบัติครบนั่งเก้าอี้เสนาบดีได้ แจงผู้เกี่ยวข้องแล้วทุกคนเข้าใจ โอด มีขบวนการสกัดตั้งแต่ระดับท้องถิ่นยันระดับชาติ ด้วยข้อหาเดิม

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ที่พรรคประชาธิปัตย์ บรรดาตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ประกอบด้วย 1.นายชัยมงคล ไชยรบ นายก อบจ. สกลนคร 2.นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายก อบจ.หนองคาย 3.นายนิพนธ์ คนขยัน นายก อบจ. บึงกาฬ 4.นายสมชาย นิติพจน์ นายก อบจ. นครพนม 5.นายบำรุง ปิยนามวานิชนายก อบต. พังงา 6.นายรวยชัย กิตตพรมวงศ์ ประธานสภา อบจ.พังงา. 7.นายชาญยุทธ เกื้ออรุณ เลขานุการ นายก อบจ. ตรัง 8.นายวิริยะ ทองผา รองนายกฺ อบจ.มุกดาหาร. 9. นายเกริกพล แสนเมือง ทึ่ปรึกษานายก อบจ. มุกดาหาร และ10. นายพิกิฏ ศรีธนะ อดีตสส. ยโสธร เข้ามอบกระเช้าดอกไม้ให้กำลังใจกับนายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายก อบจ. สงขลา และว่าที่รมช.มหาดไทยในโควต้าของพรรคประชาธิปัตย์

โดยนายชัยมงคล ในฐานะตัวแทนกลุ่ม อปท. กล่าวว่า มาให้กำลังใจนายนิพนธ์ ในฐานะคนทำงานท้องถิ่นที่มีประสบการณ์ และเข้าใจปัญหาของคนท้องถิ่น การกระจายอำนาจ ที่ต้องได้คนที่เข้าใจร่วมทำงานกับรัฐบาลเพื่อนำพาประเทศไทยเดินหน้าต่อเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชนไปสู่ความมั่นคง มั่นคั่งและยั่งยืนให้ได้

ทั้งนี้นายนิพนธ์ กล่าวขอบคุณผู้ที่มาให้กำลังใจ พร้อมแถลงแก้ข้อกล่าวหาใน 5 กรณีอีกครั้ง โดยระบุว่าเรื่องที่ค้างในกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช. )ไม่ใช่การร้องเรียนเรื่องทุจริต แต่เป็นปัญหาเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างรถซ่อมบำรุงทางเอนกประสงค์ 2 คัน มูลค่า 50 ล้านบาท ที่จัดซื้อตั้งแต่นายกอบจ.คนเก่า แต่ถึงกำหนดจ่ายเงินช่วงที่ตนเข้ารับตำแหน่ง ขณะเดียวกันก็มีการร้องเรียนเพื่อให้ระงับการสั่งจ่าย เพราะการจัดซื้อจัดจ้างมีปัญหา โดยผู้ว่าราชการังหวัดลงนามแจ้งเรื่องมา ตนจึงไม่เซ็นต์จ่ายเงิน และมีการตั้งกรรมการสอบสวนเพื่อพิจารณาว่าคำร้องมีมูลหรือไม่ โดยระหว่างที่ตั้งกรรมการสอบสวนกบริษัทที่ต้องการให้ชำระเงินก็ไปฟ้องศาลปกครอง จึงมีการชะลอการจ่ายเงินไว้ก่อนจนกว่าคดีจะถึงที่สุด ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองสูงสุด และผลของคณะกรรมการที่ตั้งตรวจสอบรายงานว่ามีมูลเชื่อได้ว่ามีการกระทำผิดกำหนดคุณสมบัติเอื้อกับกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง เพราะการจัดซื้อครั้งนี้เป็นครั้งที่สาม รวมจัดซื้อ 4 คัน โดยผู้ได้ประโยชน์เป็นกลุ่มเดียวกันทั้งหมด เรื่องนี้ตนสามารถชี้แจงได้ทั้งหมดไ ม่มีการทุจริต มีแต่การนำเอาข้อสั่งการของผู้ว่าราชการจังหวัดไปปฏิบัติและเป็นการรักษาผลประโยชน์องค์กรอย่างแท้จริง เนื่องจากมีบทเรียนจากกรณีรถและเรือดับเพลิง กทม.มาแล้ว

นายนิพนธ์ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องสวนสาธารณะมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทเป็นโครงการที่ริเริ่มโดยจังหวัดสงขลาแต่ให้ อบจ.สงขลาเป็นหน่วยงานดำเนินการ จึงไม่ใช่การดำเนินการโดยไม่ได้รับอนุญาต อีกทั้งศาลปกครองได้จำหน่ายคดีที่มีการร้องว่าไม่จัดทำประชาพิจารณ์ไปแล้ว จึงถือว่าเรื่องยุติแล้วเช่นเดียวกับการจัดซื้อรถตู้พยาบาล 1 คันราคา 5 ล้านกว่าบาท ซึ่งเป็นราคาตามบัญชีนวัตกรรม ของกรมบัญชีกลาง ส่วนอีกกรณีที่กล่าวหาว่า อบจ.นำเงินอุดหนุนสมาคมกีฬาจังหวัดสงขลา เพื่อให้นำงบประมาณไปใช้ในการจัดการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ซึ่งมีข้อโต้แย้งเพียงว่าจะใช้ระเบียบการเบิกจ่ายของ อบจ.หรือระเบียบของสมาคมกีฬา ทั้งนี้หากมีการเบิกจ่ายผิดระเบียบก็ต้องนำเงินมาคืนอบจ.สงขลา ซึ่งเรื่องนี้มีการทยอยดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบแล้ว

ทั้งนี้นายนิพนธ์ ได้นำตารางการจ่ายเงินงบประมาณไปยัง 16 อำเภอในจังหวัดสงขลา มาแสดงต่อสื่อมวลชน เพื่อยืนยันว่ามีการจัดสรรงบประมาณกระจายไปยังทุกอำเภอ ไม่ใช่กระจุกในบางอำเภอตามที่มีการกล่าวหา โดยพิจารณาจำนวนประชากร ความสำคัญของพื้นที่ กระจายงบประมาณตามความเหมาะสม ซึ่งที่ผ่านมามีการโจมตีด้วยเรื่องเหล่านี้ตั้งแต่ระดับการเมืองท้องถิ่น จนกระทั่งตนเข้าสู่การเมืองระดับชาติก็นำกลับมาโจมตีอีก
เป็นการจงใจสกัดไม่ให้ตนเข้ารับตำแหน่ง แต่ยืนยันชี้แจงได้ทุกเรื่อง เพราะมีพยานหลักฐานชี้แจงได้ครบถ้วน

เมื่อถามถึงกรณีมีข่าวว่านายกรัฐมนตรีตีกลับรายชื่อรัฐมนตรีบางคนนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ยังไม่มั่นใจรายชื่อที่ถูกตีกลับเป็นใคร แต่ตนพยายามชี้แจงเรื่องทั้งหมดแล้ว อาจมีขบวนการของฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามทางการเมือง หรือเป็นคู่แข่งขันทางการเมืองพยายามไม่เข้าใจประเด็นนี้ และเอกสารที่ว่อนในอินเตอร์เน็ตหลายเรื่องเป็นเอกสารเท็จ จึงขอให้ระมัดระวังในการนำเสนอด้วย

“ผมได้กราบเรียนบุคคลที่เกี่ยวข้องให้รับทราบแล้วว่าปัญหาคืออะไร ถือว่าที่ผมชี้แจงผ่านสื่อเป็นสิ่งที่ชัดเจนแล้ว จึงมั่นใจคุณสมบัติตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ว่าสามารถดำรงตำแหน่งได้ เพราะไม่ได้ขาดคุณสมบัติ หรือเป็นอย่างที่ถูกกล่าวหา ซึ่งผู้เกี่ยวข้องก็เข้าใจในทุกประเด็น” นายนิพนธ์ กล่าว

มติชนออนไลน์