‘วัฒนา’ ชี้ แม้คสช.หายไป แต่ ‘ประยุทธ์’ ยังใช้ ‘กอ.รมน.’เป็นเครื่องมือ จัดการฝ่ายตรงข้ามได้

เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. นายวัฒนา เมืองสุข อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และแกนนำเพื่อไทย โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กตอบโต้กรณี กอ.รมน.เตรียมเข้ามาดูแลปัญหาต่างๆเมื่อคสช.ถูกยกเลิกไป โดยระบุว่า

โฆษก กอ.รมน. แถลงข่าวถึงการปรับโอนหน้าที่ของ คสช. ให้กับ กอ.รมน. โดยมีการจัดโครงสร้างไว้รองรับแล้ว โดยเมื่อปลายปี 2560 พลเอกประยุทธ์ได้ออกคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 51/2560 แก้ไขเพิ่มเติม พรบ. การรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. 2551 ขยายคำจำกัดความของการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรให้รวมถึงอาชญากรรมปกติที่เคยอยู่ในอำนาจของตำรวจ

ตามคำสั่งดังกล่าว กอ.รมน. จังหวัดมีอำนาจสำคัญที่ซ่อนอยู่ในมาตรา 13/2 (7) คือมีอำนาจเชิญบุคคลมาให้ข้อมูลหรือจัดส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานประกอบเพื่อประโยชน์ในการดำเนินการของคณะกรรมการ ซึ่งแท้ที่จริงคืออำนาจเรียกตัวบุคคลมาควบคุมตัวในรูปแบบของการมาให้ข้อมูลคล้ายกับอำนาจตามข้อ 6 ของคำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 3/2558 ที่ให้อำนาจทหารสามารถเรียกบุคคลมาเพื่อสอบถามข้อมูลหรือให้ถ้อยคำ หากยังสอบถามไม่แล้วเสร็จสามารถควบคุมตัวบุคคลนั้นไว้ได้ไม่เกิน 7 วัน

อำนาจในการสั่งให้บุคคลมาให้ข้อมูลหรือจัดส่งข้อมูลพร้อมหลักฐานประกอบนั้น ขัดต่อหลักสิทธิมนุษยชน ขัดต่อรัฐธรรมนูญเพราะเป็นการกระทำที่ละเมิดหรือกระทบสิทธิของบุคคลและเป็นการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้ประโยชน์ ขัดต่อกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาที่พนักงานสอบสวนและศาลเท่านั้นจะมีอำนาจออกคำสั่งให้บุคคลใดจัดส่งข้อมูลหรือเอกสารมาประกอบการพิจารณาได้ กฎหมายไม่ได้ให้อำนาจใครก็ได้สามารถเรียกเอกสารหลักฐานจากบุคคลอื่นนอกจากเผด็จการ

หากดูโครงสร้างของ กอ.รมน. ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน มีหน่วยงานด้านกฎหมายและความมั่นคงซึ่งรวมถึงกองทัพบก เรือ อากาศ และ สตช. อยู่ภายใต้การกำกับเท่ากับว่าพลเอกประยุทธ์จะบริหารประเทศนี้โดยมีกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคงไว้จัดการกับฝ่ายตรงข้ามต่อไปโดยเอาเรื่องความมั่นคงมาบังหน้า ทั้งที่งานที่กำหนดให้ กอ.รมน. ทำนั้นมีหน่วยงานปกติรับผิดชอบอยู่แล้ว มีคนกล่าวว่าที่คนพวกนี้เหิมเกริมได้ขนาดนี้เพราะคนไทยไม่มีน้ำยา ถ้าใจเราได้ครึ่งของคนฮ่องกงรับรองเผด็จการไม่มีแผ่นดินอยู่นานแล้วครับ

มติชนออนไลน์