“ช่อ” ปัดถูกลดบทบาท​ แจง​ “อนาคตใหม่” วางแผนมาก่อน ตั้งรองโฆษกเพิ่ม​เพื่อกระจายงาน​ ยันพรรคไม่ยึดตัวบุคคล ชี้ชวน ปชช.ตัดสิน​ ศาลรัฐธรรมนูญ​ไม่คืบ 41 ส.ส.รัฐบาลถือหุ้นสื่อ

น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ (อนค.)​ กล่าวถึงกระแสข่าวถูกลดบทบาททางการเมืองอย่างอารมณ์ดี​ว่า ยังคงมีบทบาทเหมือนเดิม​ คือในฐานะ ส.ส.นั้น ถูกมอบหมายให้รับผิดชอบด้านการต่างประเทศ และสิทธิมนุษยชน เมื่อมีการร่างข้อบังคับ กำหนดสัดส่วนกรรมาธิการเสร็จแล้ว ก็จะเข้าไปรับผิดชอบในด้านที่เกี่ยวข้อง ส่วนในฐานะโฆษก การแต่งตั้งรองโฆษกเพิ่มอีก 2 คน รวมมีรองโฆษก 3 คนนั้น เป็นการวางแผนของพรรคตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง​ ว่าภายหลังการเลือกตั้งจะประกาศตั้งรองโฆษกเพิ่มเติมเมื่อมีรัฐบาลใหม่ ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติทั่วไปของพรรคการเมืองที่จะต้องมีรองโฆษกหลายคนเพื่อแถลงและชี้แจงในแต่ละประเด็นที่มีความรู้ความสามารถและได้รับมอบหมาย

“เมื่อการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรียังวุ่นวาย ไม่สะเด็ดน้ำเสียที อนาคตใหม่จึงประกาศตั้งรองโฆษกเพิ่มเพื่อเตรียมพร้อมการทำงาน ดังนั้น​ ในความเป็นจริงจึงเป็นเรื่องของการกระจายงานกันทำ ไม่ให้กระจุกตัวอยู่ที่คนใดคนหนึ่ง เพื่อนำไปสู่การสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็ง ไม่ใช่พรรคที่ยึดถือตัวบุคคล นี่จึงไม่ใช่เรื่องของลดหรือไม่ลดบทบาท ซึ่งที่ผ่านมาพรรคอนาคตใหม่ก็ถูกโจมตีว่าในพรรคมีแต่ นายธนาธร จึง​รุ่งเรือง​กิจ​ นายปิยบุตร แสง​กนก​กุล​ น.ส.พรรณิการ์เท่านั้น แต่พอพรรคอนาคตใหม่กระจายบทบาทกันทำหน้าที่ ก็ถูกมองเรื่องลดบทบาทอีก” น.ส.พรรณิการ์กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีตกคำร้อง​ 27 ส.ส.พปชร.ฐานถือหุ้นสื่อ​ น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า การจะอ้างขอคุ้มครองไม่ให้สั่ง​ 27​ ส.ส.พปชร.ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวโดยอ้างว่ากระทบการทำงานของสภานั้น กรณีของนายธนาธรที่ต้องยุติการปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวก็กระทบงานในสภาเช่นเดียวกัน ซึ่งคำร้องของ 27 ส.ส.พปชร. นั้น ฐานคดีต้องเปรียบเทียบกับกรณีของนายภูเบศวร์ เห็นหลอด ผู้สมัคร ส.ส.สกลนคร เขต 2 พรรคอนาคต​ใหม่​ ที่ถูกตัดสิทธิสมัครเลือกตั้ง เพราะใบบริคณห์สนธิ ระบุถึงการทำสื่อ ซึ่งเหมือนกับคำร้อง 27 ส.ส.พปชร.

น.ส.พรรณิการ์กล่าวว่า ส่วนการเทียบเคียงกับนายธนาธร​ เป็นเรื่องของขั้นตอนตามกระบวนการเมื่อเรื่องไปสู่ศาล ซึ่งควรเป็นมาตรฐานเดียวกัน ทั้งระยะเวลาและการสั่งยุติปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ดังนั้น โฆษกของ พปชร.จึงต้องแยกแยะก่อนแถลงด้วย ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า คดีของ 41 ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลที่ถูกร้องถือหุ้นสื่อ ผ่านไป 7 วันแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเหมือนกรณีของนายธนาธรนั้น ก็ให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินเอง

มติชนออนไลน์