รื้อแล้ว! ‘ประตูแดง 6 ตุลา 19’ จุดเริ่ม เหตุฆ่านองเลือดประวัติศาสตร์ เข้าพิพิธภัณฑ์

รื้อแล้ว! ‘ประตูแดง 6 ตุลา 19’ จุดเริ่มต้น เหตุการณ์ฆ่านองเลือดประวัติศาสตร์ จ่อสร้างพิพิธภัณฑ์จัดแสดง

เมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ที่ผ่านมา เว็บไซต์ VOICE TV ได้รายงานว่า โครงการ ‘บันทึก 6 ตุลา’ โดย รศ.ดร.พวงทอง ภวัครพันธุ์ อาจารย์ประจำภาควิชาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้เปิดเผย ถึงกรณีการย้าย “ประตูแดง 6 ตุลาฯ” ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ชิ้นสำคัญ ในช่วงเหตุการณ์ เดือนตุลาคม 2519 และได้นำไปจัดเก็บไว้ในสถานที่แห่งหนึ่ง

โดยได้เล่าถึงความเป็นมาถึงการจัดทำโครงการนี้ว่า เป็นการริเริ่ม โดยคุยกันของทีมงานและผู้สนใจเรื่อง 6 ตุลา ว่าหากปล่อยทิ้งไว้ ประตูซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์มีแต่จะผุพังไป และเสี่ยงต่อการถูกนำไปทิ้ง หรือปรับปรุงที่ดินใหม่ เพราะบริเวณข้างเคียงก็เริ่มมีการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร

“เราก็เสียดายถ้าอยู่มาวันหนึ่งมันจะหายไป แล้วเราก็ไม่เก็บไว้ ดังนั้นก็นำมาสู่การที่ดิฉันกับคุณภัทรพร ก็เดินทางมาคุยกับทางเจ้าของบ้านว่าเราอยากจะขอประตูนี้ไปเก็บไว้เป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่ชี้ให้เห็นถึงความรุนแรงของรัฐ เป็นหลักฐานให้คนรุ่นหลังได้เห็น ได้ประจักษ์ ทางที่เจ้าของบ้านก็ยินดีที่จะให้ โดยแลกกับที่เราทำประตูใหม่ให้กับแก” อ.พวงทอง กล่าว

รศ.ดร.พวงทอง กล่าวว่า ประตูแดงนี้ เป็นเหตุการณ์ที่แสดงให้เห็นถึงความรุนแรงของรัฐในขณะนั้นเขาเรียกกันว่าขบวนการขวาพิฆาตซ้าย ในขณะนั้นเป็นช่วงที่นักศึกษาและนักกิจกรรมทางการเมืองเจอกับการลอบสังหารหรือทำร้ายอย่างมาก

ด้านนายชุมพล ทุมไมย ผู้เป็นพี่ชายของ นายชุมพร ทุมไมย หนึ่งในผู้เสียชีวิตที่ถูกนำมาแขวนคอที่ประตูแดงแห่งนี้ ซึ่งได้เดินทางจากจังหวัดอุบลราชธานี มาร่วมสังเกตการณ์การปลดประตูแดงในวันที่ 18 มิถุนายน ด้วย กล่าวว่า ตามวิสัยของธรรมชาติมนุษย์ มันก็มีความรักความคิดถึงกัน เมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ ชุมพรเป็นคนเรียบร้อย และเรียนหนังสือเก่ง เมื่อสอบการไฟฟ้าได้ก็มาเป็นพนักงานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนครปฐม ก่อนจะตกเป็นเหยื่อของการเห็นต่าง

“ถึงกับต้องฆ่าแล้วประจานกัน มันเป็นเหตุที่ต้องมีความกล้าหาญนะ ทำได้เนอะ แต่ทำแล้วไม่มีอะไร ทำได้นี่ก็ดู การเมืองเป็นอย่างนี้แหละ เอาทั้งลับและแจ้ง ไม่มีอะไรเกิดขึ้นสำหรับเขา” ชุมพล กล่าว

เมื่อมีผู้ถามว่าทุกวันนี้เขามีความคิดให้อภัยกับผู้สังหารน้องชายได้แล้วหรือยัง นายชุมพลตอบว่า ตนเองพยายามมาตลอด แต่ยังคงเสียใจอยู่ ที่จริงถ้าคิดอย่างนั้นได้เราเป็นสุขนะ มองว่าคนไหนก่อกรรมยังไงก็ได้แบบนั้น ก่อดีได้กรรมดี ก่อชั่วได้กรรมชั่วแค่นั้นแหละ ถ้าคิดอย่างนั้นก็สบายใจเหมือนกัน ทุกวันนี้ยังคงเก็บหนังสือพิมพ์ในช่วง 24 กันยา 19 ถึง 6 ตุลา 19 ไว้เพราะเกี่ยวกับเรื่องของน้องตัวเอง จึงอยากจะเอาไว้เป็นหลักฐาน เอาไว้ดูพิสูจน์ว่าข้อเท็จจริงมันเป็นอย่างไร

“มันจะเป็นครั้งสุดท้ายแล้วนี่ มันจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ไม่มีอดีต ณ ที่แห่งนี้อีกแล้ว ขอให้วิญญาณของน้องไปสู่ที่สุขสงบเถอะ” ชุมพล กล่าวทั้งน้ำตา พร้อมออกความเห็นกับการรื้อถอนประตูแดงไปเก็บรักษาไว้ว่าอยากให้ประตูแดงนี้เป็นอุทาหรณ์ของสิ่งที่เกิดขึ้น

ด้าน นิตินัย คนึงเหตุ เจ้าของที่คนปัจจุบัน ซึ่งเป็นที่ตั้งของประตูแดงดังกล่าว ได้กล่าวว่า เดิมทีที่แห่งนี้ไม่มีคนอยู่อาศัย จึงไม่ได้เปลี่ยน และไม่รู้จะเปลี่ยนไปทำไม เพราะไม่มีเหตุผลเพียงพอ

นิตินัย ได้เปิดเผยไปต่ออีกว่า ผู้เป็นเจ้าของที่ดินในสมัยที่เกิดเหตุคือ พันตำรวจเอก (พิเศษ) ธำรง คนึงเหตุ ผู้เป็นบิดา ซึ่งซื้อที่ทิ้งไว้ขณะเป็นสารวัตรที่นี่ ทว่าในขณะเกิดเหตุย้ายไปประจำอยู่ที่โคราช เขต 3 ส่วนตัวเองค้าขายวัสดุก่อสร้างอยู่ที่ตั้งเซียฮวด ไม่ได้อาศัยอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว

โดย นิตินัย เล่าความทรงจำในเช้าวันนั้นว่าทราบข่าวจากหนังสือพิมพ์ จำหัวเสาของบ้านได้จึงขับรถมาดูและพบว่าเป็นบ้านตัวเอง แต่พอเมื่อมาถึงตำรวจได้เคลื่อนย้ายศพออกจากพื้นที่ไปแล้วจึงไม่ได้เห็นเหตุการณ์กับตา ซึ่งปัจจุบันเขาพักอาศัยอยู่ในที่ดินแห่งนี้ จากเดิมที่เคยกลัว ก็เริ่มชินกับประตูรั้วบ้านแล้ว แต่ก็ยินดีมอบประตูแดงให้ทางโครงการบันทึก 6 ตุลา แลกกับประตูรั้วใหม่

“ถ้าเป็นประโยชน์กับทางประวัติศาสตร์ก็ดีกว่าอยู่ที่นี่ ถ้าอยู่ตรงนี้มันก็ชำรุด หมาลอดไปลอดมา แต่ถ้าไปเป็นประโยชน์ ไปเป็นประวัติศาสตร์ ไปเก็บให้ดีๆ เรื่องราวมันจะยาว ดีกว่าอยู่ตรงนี้ คิดว่าอย่างนั้น” ประตูใหม่เป็นประตูรั้วเลื่อนสีเทาอมฟ้า นิตินัยเล่าว่านี่คือสีที่คุณพ่อชอบ และเป็นสีดั้งเดิมของประตูแดง ก่อนสนิมจะกัดกิน

โดยขณะนี้ประตูแดง ถูกนำไปจัดเก็บเป็นการชั่วคราวไว้ที่โกดังของโรงพิมพ์ภาพพิมพ์ รอโอกาสจัดแสดงในอนาคต โดยคาดว่าน่าจะมีการจัดนิทรรศการเป็นระยะๆ ร่วมกับวัตถุอื่นๆ อย่างไรก็ตาม รศ.ดร. พวงทอง เิดเผยต่ออีกว่า เป้าหมายสูงสุดที่ฝันไว้คืออยากจะรวบรวมวัตถุและเอกสารที่เกี่ยวข้องมาเป็นหอจดหมายเหตุหรือพิพิธภัณฑ์ถาวร แต่จำเป็นต้องใช้งบประมาณสูงมาก

ต้องมีผู้ที่มีเจตจำนงสนับสนุนงบประมาณอย่างต่อเนื่อง และต้องคงอยู่นานเพื่อให้คนรุ่นหลังได้ดู แต่ปัจจุบันยังไม่มีงบประมาณและทรัพยากร จึงทำได้เฉพาะส่วนที่เป็นพิพิธภัณฑ์ออนไลน์ในเว็บไซต์ doct6.com

ขอบคุณข้อมูลจาก Voice TV

ย้อนเหตุ “ประตูแดง” ชนวนเหตุ สังหารโหด เลือดนอน “6 ตุลาฯ”

ในระยะแรก การชุมนุมต่อต้านของฝ่ายนิสิตนักศึกษาที่ลานโพ หน้าอาคาร คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กลับมีประชาชนทั่วไปเข้าร่วมไม่มากเมื่อเทียบกับเมื่อครั้งเหตุการณ์ 14 ตุลา แม้จะมีกิจกรรมแสดงละครล้อการเมืองเพื่อเรียกความสนใจให้ผู้เข้าร่วมชุมนุม กิจกรรมต่อต้านหนึ่งของนิสิตนักศึกษาคือการปิดโปสเตอร์แสดงจุดยืน และเชิญชวนให้เข้าร่วมการชุมนุม ทั่วกรุงเทพมหานคร และ ต่างจังหวัดทั่วประเทศ เป็นเหตุให้นักศึกษาและแนวร่วมซึ่งออกปิดโปสเตอร์ดังกล่าวถูกลอบทำร้ายบาดเจ็บหลายครั้ง

จนเกิดคดีที่พนักงานการไฟฟ้า 2 คน นาย วิชัย เกษศรีพงษา และ นาย ชุมพร ทุมไมยง ซึ่งร่วมปิดโปสเตอร์ประท้วงที่ตำบลพระประโทน จังหวัดนครปฐม ถูกทำร้ายจนเสียชีวิตแล้วนำศพ ไปแขวนคอไว้หน้าประตูทางเข้าที่ดินจัดสรรแห่งหนึ่ง ซึ่งคือประตูแดงแห่งนี้ เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2519 แต่ตำรวจไม่สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้

และ ช่วงบ่ายวันที่ 4 ตุลาคม 2519 ชมรมศิลปการแสดงของธรรมศาสตร์จัดแสดงละครรำลึกถึงเหตุการฆ่าคนดังกล่าวที่ลานโพ แล้วในช่วงบ่ายเปิดเวทีปราศรัยใหญ่ที่ท้องสนามหลวง ก่อนย้ายเข้าสนามฟุตบอลธรรมศาสตร์ในช่วงค่ำ วันรุ่งขึ้น หนังสือพิมพ์กรุงเทพมหานครสองฉบับ ได้แก่ บางกอกโพสต์ และ ดาวสยาม ลงภาพการแสดงล้อการแขวนคอโดยผู้เดินขบวนที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เนื่องจากนักศึกษาที่แสดงเป็นเหยื่อมีใบหน้าคล้ายคลึงกับพระบรมวงศานุวงศ์ นักศึกษา ที่ชุมนุมอยุ่ในที่แห่งนั้น จึงถูกกล่าวหาว่าหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ซึ่งมีการเปิดเผยว่าภาพถ่ายดังกล่าวนั้น ถูกตกแต่งขึ้นมา แต่สำเนาทุกฉบับที่ยังเหลืออยู่เป็นภาพเดียวกัน จากนั้น สถานีวิทยุยานเกราะของกองทัพบก กล่าวหาว่า นักศึกษาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และประกาศให้ “ฆ่ามัน” และ “ฆ่าพวกคอมมิวนิสต์”

เหตุผลดังกล่าวกลายเป็นหนึ่งปัจจัยและข้ออ้างที่ทำให้ทหารล้อมปราบนักศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และกลายเป็นโศกนาฏกรรม 6 ตุลา 19 ซึ่งมีนักศึกษา และประชาชน เสียชีวิตจำนวนมาก ในที่สุด