รายงานข่าวจากจังหวัดสงขลาเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนว่า สนามการแข่งขันลงชิงเก้าอี้ นายก อบจ.สงขลา เริ่มคึกคักอย่างมาก โดยมีกระแสข่าวการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครแล้วหลายราย แต่ทั้งหมดยังอยู่ระหว่างการรอดูท่าที โดยเฉพาะ ในรายของ พลตำรวจโทสาคร ทองมุนี อดีตผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ที่ได้ประกาศความพร้อมที่จะลงสมัคร ในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลาแทนการลงสมัครนายกเทศมนตรีนครหาดใหญ่ ตามที่ได้ประกาศก่อนหน้านี้ โดย พล.ต.ท.สาครนั้น ถือว่ามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับผู้ใหญ่ในพรรคประชาธิปัตย์ และแว่วว่าจะลงสมัคร ในโควตาของพรรคประชาธิปัตย์ภายหลัง นายนิพนธ์ บุญญามณี นายก อบจ.สงขลา มีแนวโน้มที่จะได้ไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย แต่ในขณะนี้เดียวกันก็มีเสียงคัดค้านจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์หลายคนที่บอกว่า ชื่อของ พล.ต.ท.สาครนั้น ยังไม่ได้เป็นการเคาะ หรือ เป็นมติของพรรคแต่อย่างใด โดยต้องรอให้ มีการโปรดเกล้าฯคณะรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดนี้ให้แล้วเสร็จเสียก่อน พรรคจึงจะมีการหารือในเรื่องนี้

นอกจากชื่อของพล.ต.ท.สาครแล้ว ยังมีชื่อของนักการเมืองท้องถิ่นอีกหลายคน อาทิ นายประสงค์ บริรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง นายเจือ กิ้มอั้น นายกเทศมนตรีตำบลพะวง อำเภอเมืองสงขลา รวมถึง ภรรยาอดีต นายก อบจ.สงขลา และข้าราชการระดับสูง รายหนึ่ง แต่ทั้งหมดนั้น ยังรอดูท่าทีบางอย่างก่อนที่จะตัดสินใจ และยังไม่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

ในส่วนของพรรคพลังประชารัฐ นั้นค่อนข้างที่จะมีความชัดเจน ในการส่งตัวผู้สมัครลงชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา คือ พันเอก(พิเศษ)สุชาติ จันทรโชติกุล ผู้อำนวยการศูนย์ภาคใต้ พรรคพลังประชารัฐ ผู้ซึ่งสามารถนำ สส.ในภาคใต้ เข้าสู่สภาฯได้ 13 ที่นั่ง และตัวผู้การสุชาติเองก็ประกาศความพร้อมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งในสนามท้องถิ่นมาก่อนหน้านี้

โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันเดียวกันนี้ ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐภาคใต้ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พันเอก(พิเศษ)สุชาติ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความชัดเจน กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า พรรคเห็นชอบให้ตนลงสมัครชิงเก้าอี้นายก อบจ.สงขลา นอกจากในสนาม จังหวัดสงขลาแล้ว ยังพิจารณาให้ส่งผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งสนามนายก อบจ.ในหลายจังหวัดภาคใต้ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ได้รับเลือก ส.ส.ในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็น นครศรีธรรมราช ภูเก็ต ตรัง ชุมพร ระนอง รวมถึงพัทลุง ซึ่งทั้งหมดนั้นเชื่อมั่นว่าจะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่

สำหรับในสนามเลือกตั้งนายก อบจ.สงขลานั้น ตนได้ลงพื้นที่ครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอมานานแล้ว เพราะต้องดูแลการเลือกตั้ง ส.ส.ทั้ง 8 เขตเลือกตั้ง ซึ่งครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตนเองมุ่งมั่นที่จะทำการเมืองรูปแบบใหม่ ที่ไม่ต้องใช้เงิน ไม่มีการทุจริตคอรัปชั่นเกิดขึ้น รวมถึงมุ่งเน้นในการพัฒนา ทั้งในเรื่องการท่องเที่ยว ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์ และการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้มีความสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่สำคัญตนคาดหวังว่า หากมีโอกาส ได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในจังหวัดสงขลา ให้เข้าบริหารงานใน อบจ.สงขลา ตนต้องการที่จะบริหารงานให้ อบจ.สงขลาเป็น อบจ.สีขาว ปลอดจากการทุจริตและคอรัปชั่นเป็นแห่งแรกในประเทศ

ในส่วนตัวมองว่าสนามเลือกตั้ง อบจ.สงขลานั้นคงไม่ดุเดือด แต่ก็ถือเป็นสนามหนึ่งที่มีการแข่งขันสูง โดยพรรคการเมืองระดับชาติอย่างน้อย 3 พรรค จะส่งผู้สมัครลงในนามพรรค ทั้งประชาธิปัตย์ อนาคตใหม่และพลังประชารัฐ

มติชนออนไลน์