เผยแพร่ |
---|
“วิญญัติ” สวน “เเก้วสรร”อ้างชุมนุมโดยชอบพิทักษ์รธน. แต่อยู่ข้างพวกล้ม รธน.หลังยื่นคำร้องศาลอาญาส่งศาล รธน.วินิจฉัยปมชุมนุมร่วม กปปส.เตรียมจี้อัยการ 24 มิ.ย.ไม่ได้เอาตัวพวกที่เหลือฟ้องศาล เดินหน้ายื่น ปธ.ก.อ.เอาผิดวินัยอัยการ
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายนนายวิญญัติ ชาติมนตรี เลขาธิการสมาพันธ์นักกฎหมายเพื่อสิทธิและ เสรีภาพ (สกสส.) กล่าวถึงกรณีที่ นายแก้วสรร อติโพธิ หนึ่งในจำเลย คดี กปปส. จะยื่นคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยว่า การต่อต้านระบอบทักษิณโดยสันติวิธีของปวงชน สามารถทำได้ ไม่มีความผิด เพราะเป็นการใช้สิทธิพิทักษ์รัฐธรรมนูญตามวิธีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญนั้น ตนในฐานะผู้กล่าวหาคดี กปปส.และได้ติดตามทวงถามเอาตัวผู้ต้องหาที่เหลือมาดำเนินคดีในศาลมาตลอด มองว่า นายแก้วสรร คงจะใช้โอกาสที่พวกของตนเองหลายคนออกมาขัดขวางการเลือกตั้ง สร้างเหตุความขัดแย้ง เคยปูทางให้ทหารออกมายึดอำนาจปกครองประเทศมาตลอด 5 ปี เล่นแร่แปรธาตุทำหลายวิธีเพื่อเป็นรัฐบาลต่อ จะพยายามหาวิธีเพื่อพวกตนจะได้พ้นความรับผิดทั้งทางอาญาและทางแพ่ง เรื่องนี้จึงไม่ใช่เรื่องที่น่าแปลกใจเพราะมันปกติวิสัยของคนพวกนี้ ตนจึงขอโต้แย้งนายแก้วสรร ว่า
1. ประเทศไทยไม่มีระบอบอื่น มีแต่ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ยกเอาความดีว่าเป็นการต่อต้านระบอบทักษิณ ก็เป็นวาทะกรรมซ้ำซากเพื่อหาทางออกไม่อยากอยู่ภายใต้กฎหมายหรือไม่
2. คดีการชุมนุมอื่นที่เกิดขึ้นในประเทศไทยก็มีหลายเรื่อง ต่างก็ต้องพิสูจน์ความผิดกันในศาลยุติธรรมทั้งสิ้น ดูได้จากคนอยากเลือกตั้ง ทั้งๆเป็นการเรียกร้องสิทธิตามรัฐธรรมนูญ ก็ยังต้องสู้คดีในศาล กลุ่มพันธมิตรฯ ชุมนุมขับไล่รัฐบาลก็ถูกตัดสินรับโทษกันไป แต่นายแก้วสรร กับพวกจะถือว่าตนเป็น อภิสิทธิชนเหนือประชาชนคนอื่นได้อย่างไร
3. การอ้างว่าออกมาต่อต้าน แต่คนทั้งประเทศเห็นกันว่า กระทำการเข้าข่ายขัดขวางการเลือกตั้ง ทั้งที่การเลือกตั้งครั้งนั้นมี พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งฯ ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงโปรดเกล้าแล้ว เช่นนี้ถือว่าเป็นการพิทักษ์รัฐธรรมนูญหรือไม่ ที่สมรู้ร่วมคิดกันออกมาล้มการเลือกตั้งเป็นการไม่เคารพหลักการประชาธิปไตยและไม่เคารพพระราชกฤษฎีกาด้วยหรือไม่
4. ชัดเจนอย่างไม่มีใครสงสัยอีกแล้วว่า พวกที่ออกมาชุมนุมปิดประเทศ บุกรุกสถานที่ราชการ บางคนยังตั้งตัวเป็นรัฏฐาธิปัตย์ เรียกข้าราชการ หน่วยงานต่างๆ มารายงานตัว ให้ปิดงาน ไม่ต้องจ่ายภาษี ล้วนเป็นกลุ่มเดียวกันและมีพฤติการณ์สนับสนุนกลุ่มบุคคลให้ล้มล้างรัฐธรรมนูญเมื่อ 22 พ.ค.57กระทำการเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตย ต่อมายังได้ดิบได้ดีจาก ผู้ยึดอำนาจ ส่งคนมาเป็นรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ฯ แต่ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ว่าทำความเสียหายต่อชาติบ้านเมือง อย่างนี้ นายแก้วสรร ลืมความเลวร้ายในอดีต หรือว่าไม่เคยมองตนเอง
5. เลือกข้างเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ แต่กล้าพูดว่าพิทักษ์รัฐธรรมนูญ โดยที่พนักงานสอบสวน พนักงานอัยการชี้ขาดสั่งฟ้องหลายฐานความผิด ถ้ากระทำแบบนี้แล้วกลายเป็นการพิทักษ์รัฐธรรมนูญโดยสันติวิธี ต่อไปบ้านเมืองก็จะมีแต่คนอ้าง “ระบอบ คสช.” “ระบอบสุเทพ” หรือ ระบอบมั่วกันไปหมด เพื่อพิทักษ์รัฐธรรมนูญ ใช่หรือไม่ ตนจึงเห็นว่าหากจะยื่นคำร้องก็ยื่นไป แต่อย่าลืมเรื่องนี้ ประชาชน นักกฎหมาย รวมถึงองค์กรวินิจฉัยชี้ขาดก็มองออกว่าอะไรเป็นอะไร และคงจะไม่หลงประเด็นไปตามนายแก้วสรรแต่อย่างใด
ขณะนี้ตนยังทราบว่าพนักงานอัยการได้นัดผู้ต้องหา คดี กปปส. ที่เหลืออีก 10 กว่าคน มาฟ้องต่อศาลในวันที่ 24 มิถุนายน นี้ หากไม่มีการฟ้องหรือให้เลื่อนนัดฟ้องไป ตนจะไปยื่นหนังสือร้องเรียนพฤติการณ์ของพนักงานอัยการต่อประธาน คณะกรรมการอัยการ ก.อ.ให้ตรวจสอบวินัยอย่างแน่นอน
มติชนออนไลน์