แกนนำ พลังประชารัฐ อีสาน โวยไร้เก้าอี้! ปล่อยให้เดินว้าเหว่ ขู่โหวตสวนมติพรรค

แกนนำ พลังประชารัฐ อีสาน โวย! ไร้เก้าอี้ ปล่อยให้เดินไปอย่างว้าเหว่-ไม่ได้รับความเป็นธรรม จี้ผู้บริหารพรรคให้ความสำคัญทั่วถึง ขู่โหวตสวนมติพรรค
วันที่ 15 มิ.ย. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคพลังประชารัฐ จ.ขอนแก่น นายเอกราช ช่างเหลา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) อดีตคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรค ดูแลพื้นที่ภาคอีสาน แถลงว่า กลุ่มส.ส.ภาคอีสาน มองว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดสรรตำแหน่งครม. ให้กับภาคอีสานตอนบน

ศูนย์จังหวัดอุบลราชธานีและศูนย์จังหวัดขอนแก่น รวมกันได้ 1,364,761 คะแนน คิดเป็นส.ส.ได้ 19 คน หักส.ส.เขต 2 คน เหลือส.ส.บัญชีรายชื่อ 17 คน แต่พรรคไม่ให้ความสำคัญที่จะจัดสรรตำแหน่งให้กับส.ส.ภาคอีสานตอนบน ปล่อยให้ส.ส.ภาคอีสานตอนบนเดินไปอย่างว้าเหว่ ไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น พวกเราจะทบทวนบทบาทในการร่วมกิจกรรมกับพรรคพปชร.ในอนาคตต่อไป

“พวกเราออกมาพูดครั้งนี้ เพื่อเรียกร้องไปถึงผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐว่า การจัดสรรตำแหน่งในรัฐบาลควรคำนึงถึงภาคส่วนต่างๆ ทั่วประเทศ ให้ความสำคัญอย่างทั่วถึงด้วย ภาคอีสานมี 20 จังหวัด ได้คะแนนมากกว่า 2 ล้านคะแนน ใน 8 ล้านกว่าคะแนน และจ.นครราชสีมา ได้ตำแหน่งใน ครม.ไปแล้ว แต่ภาคอีสานตอนบนไม่มีตำแหน่งใน ครม.แม้แต่คนเดียวที่จะเข้าไปร่วมขับเคลื่อนนโยบายของพรรค พวกเราจึงขอเรียกร้องไปถึงผู้บริหารพรรค ให้คำนึงถึงความเท่าเทียมและความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย ที่จะดูแล ส.ส.อย่างทั่วถึงทั้งประเทศ” นายเอกราชกล่าว

ขู่โหวตสวนมติพรรค
นายเอกราช กล่าวว่า พวกเราไม่ได้รับความเป็นธรรมจัดสรรตำแหน่งในครม. จึงขอความเป็นธรรมอย่างทั่วถึง อย่างพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ผู้บริหารบอกว่าพรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีอยู่ทุกภาคในประเทศไทย แม้อีสานมีส.ส. 2 คนก็ต้องมีรัฐมนตรี 1 คน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของพรรคและสร้างพรรคของเขาต่อไป แต่ส.ส.ในภาคอีสานตอนบนของพรรคพลังประชารัฐ มีมากกว่าพรรคประชาธิปัตย์ แต่ไม่ได้รับการเหลียวแลจัดสรรตำแหน่งใน ครม.แม้แต่คนเดียว

นายเอกราช กล่าวต่อว่า จึงขอสื่อถึงผู้บริหารพรรคพลังประชารัฐดูแลส.ส.ในภาคอีสาน และให้ความเป็นธรรมกับพวกเราด้วย ถ้าไม่อย่างนั้นพวกเราที่เป็นส.ส.ภาคอีสานทั้งหมดจะทบทวนตัวเอง พร้อมขับเคลื่อนใหม่กับพรรคพลังประชารัฐในรูปแบบใหม่ต่อไป ซึ่งไม่ใช่การลาออก แต่จะทำอย่างไรขอปรึกษาหารือกันในส่วนของส.ส.ภาคอีสานตอนบนก่อน และลงมติร่วมกันว่าจะขับเคลื่อนไปในแนวทางที่เห็นสมควร อาจไม่เป็นไปตามมติของพรรคก็ได้ ขอย้ำว่าไม่ใช่การลาออกเด็ดขาด แต่จะไปร่วมงานกับผู้ที่มีอุดมการณ์และมีความเป็นธรรมให้กับส.ส.กลุ่มภาคอีสานตอนบน