ย้อนวันวาน-คำชี้แนะจากครู ถึงลูกศิษย์ชื่อ “พรรณิการ์ วานิช”

พรรคอนาคตใหม่ตกเป็นเป้าโจมตีจากหลายทิศทางตั้งแต่เรื่องเล็กยันเรื่องใหญ่ เรียกว่าทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรค โดนสารพัดข้อกล่าวหาและข้อร้องเรียนตั้งแต่ช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง จนกระทั่งกลายเป็นพรรคการเมืองน้องใหม่ที่สามารถคว้าที่นั่งในสภาได้ถึง 80 ที่นั่ง และได้นั่งเข้าไปในสภา (เว้นแต่นายธนาธร ถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุติทำหน้าที่ชั่วคราวระหว่างสืบสวนกรณีถือหุ้นสื่อ) ส่วนนายปิยบุตร ก็ถูกข้อหาหมิ่นศาลรัฐธรรมนูญกรณีคำตัดสินยุบพรรคไทยรักษาชาติ

ล่าสุดถึงคราวของน.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีตสื่อมวลชนจากช่องวอยซ์ที่ตัดสินใจเข้าเส้นทางการเมืองในฐานะโฆษกพรรค ก็โดนโจมตีจากส.ส.และส.ว.เพศเดียวกันตั้งแต่เรื่องความประพฤติิในสภาจนถึงเครื่องแต่งกายอย่างชุดแบรนด์ดัง POEM แต่ที่กลายเป็นประเด็นในตอนนี้คือ ภาพที่ถูกขบวนการ IO ฝ่ายผู้มีอำนาจรัฐขุดขึ้นสมัยที่น.ส.พรรณิิการ์เรียนจบปริญญาตรีตอนปี 2553 กับภาพที่ไร้คำบรรยายแต่ถูกฝ่ายตรงข้ามผลิตซ้ำวาทกรรมทำลายทางการเมืองอย่าง “ไม่จงรักภักดี” ซ้ำยังโจมตีลุกลามถึงครอบครัวและสถาบันการศึกษาที่น.ส.พรรณิการ์สำเร็จการศึกษา แต่ประเด็นนี้กลับมีการโต้เถียงทั้งจากผู้สนับสนุนพรรคและผู้ติดตามการเมืองว่าถูกต้องแล้วหรือไม่ ที่เอาประเด็นเดิมๆมาทำลายฝ่ายตรงข้ามซึ่งไม่ใช่วิถีทางการต่อสู้ตามระบอบประชาธิปไตย

สำหรับน.ส.พรรณิการ์ ช่วงศึกษาต่อปริญญาตรีก็ได้เข้าศึกษาในคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สาขาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ด้วยความสนใจการเมืองระหว่างประเทศเป็นพิเศษ อาจารย์ที่เคยสอนหรือรู้จักพูดถึงลูกศิษย์ค่ายสิงห์ดำคนนี้ยังไง

ที่มาภาพ : ประชาไท

รศ.สรวิศ ชัยนาม เล่าถึงลูกศิษย์ที่กลายมาเป็นนักการเมืองคนนี้ว่า ในชั้นเรียน น.ส.พรรณิการ์เป็นคนที่มีความสามารถในรุ่นนั้น ภาษาอังกฤษถือว่าดีกว่าคนอื่นและมีความคิดความอ่านที่น่าสนใจ ถือเป็นนิสิตหัวเสรีคนหนึ่ง ในทางส่วนตัว น.ส.พรรณิการ์มีนิสัยน่ารัก และกล้าแสดงความคิดเห็นมาก นั้นพอทำให้เห็นแนวโน้มในสายงานวันข้างหน้าแล้วตั้งแต่อยู่ในชั้นเรียนและผลงานที่ส่งในรายวิชา

รศ.สรวิศ ได้แนะนำถึงลูกศิษย์ผู้รอบรู้คนนี้ว่า จริงๆแล้ว การเป็นนักการเมืองไม่ได้เป็นอาชีพที่ต้องใช้ความสามารถมากนักหรือเรียนสูงแค่ไหน แต่การเมืองเป็นแค่เรื่องส่วนตัว ขุดคุ้ย สาดสีใส่ร้าย คิดว่าเจ้าตัวน่าจะคาดเดาได้ ในด้านหนึ่งคิดว่ารับมือไหว ไม่ใช่สิ่งที่อยู่เหนือการคาดเดา ยิ่งในอนาคต ถ้ายิ่งมีอะไรที่หนักหนากว่านี้ ผมถือว่าพรรคอนาคตใหม่หรือตัว น.ส.พรรณิการ์ ก็ไม่ได้มีความคิดสุดโต่ง ค่อนข้างจะเสรีนิยมและสายกลางๆ แต่บริบทสังคมไทยยังรับไม่ได้ ก็เป็นภาพสะท้อนว่าในหลายปีที่ผ่านมา การเมืองไทยเทเป็นขวาหนักขึ้น อนุรักษ์นิยมแบบประชาธิปัตย์อาจไม่พอแล้วกลับแรงกว่านี้อีก แต่โดยรวม ถ้าเจ้าตัวไม่เสียสติกับเรื่องบ้าบอ คิดว่าน.ส.พรรณิการ์รวมถึงคนอื่นที่เจอสภาพตอนนี้ก็คงรับมือได้ ลองเรียนรู้จากนักการเมืองต่างประเทศที่โดนโจมตี เช่น เบอร์นี แซนเดอร์ หรือนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างอเล็กซานเดรีย โอคาซีโอ-คอร์เทซ พวกเขาโดนทุกวัน ลองดูว่าพวกเขาแก้เกมส์ยังไง ส่วนการเมืองไทยก็มีหลายเรื่องที่รุนแรงกว่า เพราะผูกติดกับความเชื่อรากฐานในโครงสร้างการเมืองไทย

ด้านรศ.ดร.ฐิตินันท์ พงษ์สุทธิรักษ์ ผู้อำนวยการสถาบันวิทยาศาสตร์และความมั่นคงระหว่างประเทศ คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ และจบปริญญาเอกจากวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และรัฐศาสตร์ ลอนดอนหรือแอลเอสอี ซึ่งเป็นสถาบันเดียวกับที่น.ส.พรรณิการ์สำเร็จการศึกษาปริญญาโท ได้ให้ข้อเสนอแนะกับรุ่นน้องว่า งานการเมืองที่ น.ส.พรรณิการ์เข้ามาถือว่ามีความตั้งใจอย่างเต็มเปี่ยม ทำการเมืองแบบใหม่ทั้งทีมพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่มีอุดมคติสูงเตรียมตัวมาอย่างดี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าทำไมพรรคอนาคตใหม่ถึงได้เสียงสนับสนุนล้มหลาม ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์การเมืองไทย เมื่อมีเลือกตั้ง พรรคใหม่ที่ก่อตัวไม่นาน ไม่ได้มีทุนใหญ่เหมือนพรรคพลังประชารัฐ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ทุนต้องหนามาก แต่พรรคอนาคตใหม่ได้เสียงสนับสนุนเชิงอุดมการณ์ เพราะต้องการเปลี่ยนโฉมหรือทิ้งอดีตที่ได้มาจาก คสช. แต่ในขณะเดียวกัน งานการเมืองที่น.ส.พรรณิการ์รับอาสาจะทำ ยังต้องไปอีกยาวไกล ผมคิดว่าออกตัวเร็ว เร่งเครื่องเร็วเกินไป เพราะแต่ละวันบ้านเมืองเรามีหลายเรื่องต้องทำเยอะ ไม่จำเป็นเอาแต่มุ่งโจมตีเผด็จการอย่างเดียว ลองเตรียมความพร้อมด้านกลไกและการทำงานในสภา สามารถใช้เวลาเดินสายขยายฐานแนวร่วม อาจลองให้ความสนใจกับเรื่องโครงการต่างๆของกระทรวงที่มีปัญหา ธุรกิจขนาดกลางขนาดเล็กที่ประสบปัญหาในขณะที่ทุนใหญ่กลับได้ประโยชน์ หรือเรื่องภาษีที่พรรคเคยหาเสียงก็ได้ แต่การมุ่งแต่โจมตีเผด็จการ จะทำให้ยิ่งตกเป็นเป้า

“การเล่นงาน การทำลายความน่าเชื่อถือ การด่าทออะไรต่างๆ ส.ส.ที่หาเรื่อง ผมคิดว่าพรรคอนาคตใหม่ออกตัวแรงเร็ว แต่เส้นทางการเมืองยังอีกยาวไกล คุณยังไปไม่ไกลเท่าไหร่จะจอดเสียแล้ว เพราะไปเป็นสายล่อฟ้าพวกเขา” รศ.ดร.ฐิตินันท์ กล่าวปิดท้าย