เอกชนขอรัฐบาลใหม่รักษาเสถียรภาพเศรษฐกิจเติบโตระดับ 3-4%

นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทยกล่าวว่า ขณะนี้ทางคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน3 สถาบัน(กกร.) ได้แก่หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(...) และสมาคมธนาคารไทยอยู่ระหว่างสรุปรายละเอียดในสมุดปกขาวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนนี้เพื่อเตรียมพร้อมเสนอต่อรัฐบาลใหม่ต่อไปซึ่งรายละเอียดในสมุดปกขาวจะสะท้อนสิ่งที่เอกชนคาดหวังจากภาครัฐ โดยเรื่องจำเป็นและสำคัญคือ ช่วงหลายปีก่อนหน้าอัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ(จีดีพี) เติบโตต่ำแต่3-4 ปีที่ผ่านมามีการผลักดันจีดีพีให้กับมาเติบโตที่ระดับ4% ถือว่าเศรษฐกิจไทยมีเสถียรภาพด้านการเติบโตดีกลับขึ้นมาอยากให้รัฐบาลใหม่มีการรักษาเสถียรภาพการเติบโตจีดีพีให้อยู่ที่ระดับ3-4% ต่อเนื่องไปเรื่อยๆภายใต้กรอบเงินเฟ้อต้องอยู่ในที่กรอบนโยบายการเงินกำหนดไว้เรื่องวินัยการเงินการคลังอยู่ในระดับเหมาะสมอัตราแลกเปลี่ยนไม่แก่วงมากกว่าประเทศเพื่อนบ้านจนเกินไปหากทุกอย่างอยู่ในกรอบในสภาพเศรษฐกิจแบบนี้ธุรกิจยังประคองตัวไปได้แม้ว่าจะมีความผันผวนและความไม่แน่นอนอยู่จากสงครามการค้าสหรัฐและจีน

คาดหวังให้มีการจัดตั้งรัฐบาลให้เรียบร้อยเร็วที่สุดจะเป็นเรื่องดีที่สุดเพราะหลายเรื่องต้องเดินหน้าด้วยรัฐบาลที่มีอำนาจเต็มส่วนการที่รัฐบาลเป็นรัฐบาลมาจากหลายพรรคการเมืองมีหลากหลายนโยบายที่ต้องดำเนินการคาดว่าจะมีการลำดับความสำคัญเรื่องต่างเป็นเอกภาพเพื่อแถลงต่อรัฐสภาซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจน่าจะทำได้เร็วแต่มาตรการแก้ไขปัญหาด้านโครงสร้างอาจจะต้องใช้เวลาส่วนด้านการทำงานแม้ว่าจะมาจากหลายพรรคคาดว่าจะมีแนวทางทำงานร่วมกันได้ในที่สุดทั้งนี้การจัดทำกรอบงบประมาณปี2563 ที่ล่าช้าออกไปต้องประเมินว่าความล่าช้าจะกระทบจุดใดบ้างและมีผลกระทบต่อจีดีพีมากน้อยเพียงใดแต่เรื่องนี้เป็นความล่าช้าเพราะความจำเป็นเมื่อรัฐบาลอำนาจเต็มเข้ามาเชื่อว่าจะมีการเตรียมความพร้อมเดินเต็มที่เพื่อขับเคลื่อนกรอบงบประมาณปี2563 ออกมาบังคับใช้ตามปกติตามที่วางแผนไว้นายปรีดีกล่าว

มติชนออนไลน์