ประยุทธ์ประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการเป็นนายกฯ คนที่ 29 ลำดับที่ 30 แล้ว

ประยุทธ์ประกอบพิธีรับพระบรมราชโองการเป็นนายกฯ คนที่ 29 ลำดับที่ 30 แล้ว

เมื่อวันที่ 11 มิถุนายน พี่ทำเนียบรัฐบาลมีพิธีรับพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยเมื่อเวลา 11.35 น.นายสรศักดิ์ เพียรเวช เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้เชิญพระบรมราชโองการมายังห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีหัวหน้าพรรคและตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเป็นเกียรติ จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ทำพิธีรับพระบรมราชโองการ โดยมีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา ร่วมในพิธี

จากนั้นนายกรัฐมนตรี เดินมายังห้องสีม่วง ในตึกไทยคู่ฟ้าทำเนียบรัฐบาล ซึ่งมีหัวหน้าพรรคและตัวแทนพรรคร่วมรัฐบาล ร่วมเป็นเกียรติก่อนที่จะกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณว่า

“ในวาระที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชโองการ โปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ผมดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี นับเป็นเกียรติยศและเป็นสิริมงคลอย่างสูงสุดแก่ชีวิตอย่างหาที่สุดมิได้ ผมและครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นล้นพ้น และขอเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม ทั้งจักปฏิบัติงานสนองพระราชปณิธานตามพระปฐมบรมราชโองการ
ผมขอยืนยันว่าจะทุ่มเททำงานตามมาตรฐานจริยธรรมด้วยความซื่อสัตย์สุจริต โดยยึดถือผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ จะเพียรพยายามมุ่งมั่นทำงาน พร้อมเปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกกลุ่มทุกฝ่าย ทุกสาขาอาชีพ ทุกช่วงวัย ในการขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศในทุกด้าน ทั้งความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม การต่างประเทศ กฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน ลดความเหลื่อมล้ำ กระจายรายได้ สร้างความเข้มแข็ง ยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้มีรายได้น้อย เกษตรกร ผู้ประกอบอาชีพอิสระ ที่เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ ด้วยการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ เป็นไปตามพระราชบัญญัติการเงินการคลัง และเอกชนมีส่วนร่วม ตลอดจนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้สอดคล้องกับปัจจัยภายในและภายนอกประเทศ เปิดโอกาสให้เยาวชนคนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศเพื่อให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงโลกยุคดิจิทัลและเทคโนโลยี สร้างสรรค์สังคมให้มีความรัก ความสามัคคี ปรองดอง สมานฉันท์ เกื้อกูลกันในทุกโอกาสเพื่อความกินดี อยู่ดี และความมั่นคงปลอดภัยของประชาชน พร้อมจะปกป้องรักษาไว้ซึ่งเกียรติภูมิแห่งสถาบันชาติ ศาสนา ตลอดจนจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของประชาชนชาวไทย

ผมขอขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกวุฒิสภาที่ทำหน้าที่อย่างเต็มความรู้ความสามารถ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ และให้โอกาสผมได้ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่งเพื่อประเทศชาติและประชาชนอย่างที่ทุกท่านได้ตั้งใจไว้ ผมขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทย ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร และหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่ให้ความร่วมมือกับรัฐบาลในการบริหารราชการแผ่นดินตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะเป็นพลังที่คอยเกื้อหนุน และร่วมแรงร่วมใจกับรัฐบาล เพื่อนำพาประเทศไทยของเราให้มีความสงบร่มเย็น มั่นคง มั่งคั่ง อย่างยั่งยืนตลอดไป”