10 มิ.ย. ที่ รร.แชงกรีล่า แกนนำพรรคเพื่อไทย อาทิ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรค พร้อมด้วย พล.ต.ท.วิโรจน์ เปาอินทร์ หัวหน้าพรรค นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา นายโภคิน พลกุล และ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าพบนายหลี่ ซี (H.E. Mr. Li Xi) สมาชิกกรมการเมืองพรรคคอมมิวนิสต์จีนและเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนประจํามณฑลกวางตุ้ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ เพื่อต่อยอดความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีนของทั้งสองฝ่าย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาอย่างยาวนาน พรรคเพื่อไทยไม่เคยหยุดสร้างความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีระหว่างไทย-จีน โดยช่วงหนึ่งในการสนทนาทั้งสองฝ่ายได้หยิบยกหัวข้อที่เป็นความกังวลเกี่ยวกับกรณีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ซึ่งทางจีนพยายามสร้างความเข้าใจกับประชาคมโลกรวมถึงไทย

นายหลี่ กล่าวถึงความพยายามของรัฐบาลจีนว่า ในนามของรัฐบาลจีนได้พยายามอย่างเต็มที่ที่จะให้ประชาชนชาวจีน สามารถที่จะมีความเป็นอยู่ที่ดีได้ เพราะรัฐบาลไม่ได้มองเห็นเพียงสงครามการค้าระหว่างอเมริกา ที่พยายามจะทำให้การค้าของจีนหยุดนิ่ง แต่จีนถูกมองเป็นสัญญาณของการก้าวกระโดดของการพัฒนาคนและอุตสาหกรรมให้ล้ำหน้า ยืนยันส่าประเทศจีนจะเปิดประเทศต้อนรับทุกประเทศให้สามารถค้าขายกับจีนได้อย่างแน่นนอน สงครามนี้จีนไม่ได้เริ่มก่อน แต่ยืนยันจะสู้อย่างที่สุดด้วยการพัฒนาขีดความสามารถของจีนให้รู้ว่าคนจีนมีความตั้งใจและความสามารถขนาดนั้น

นายหลี่ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยกับพรรคคอมมิวนิสต์จีนมีความสัมพันธ์ที่ยาวนานมาก โดยตนเองเพิ่งจะได้มีโอกาสครั้งแรกในการพบกับพรรคเพื่อไทย แต่ก็ได้รับทราบถึงความสำคัญของพรรคเพื่อไทยในการเมืองไทย และขอชื่นชมพรรคที่มีบทบาทที่สำคัญต่อความเจริญของประเทศไทย เพราะพรรคเพื่อไทยมีบุคคลหลายช่วงอายุที่ทำงานด้วยกันเพื่อที่จะทำหน้าที่เพื่อประเทศไทย ซี่งเป็นตัวอย่างที่ดีต่อการเมืองไทย

ด้านคุณหญิงสุดารัตน์ ได้แลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับรูปแบบการจัดการมลพิษทางอากาศและทางน้ำของ มณฑลเจ้อเจียง ซึ่งอยากที่จะหาวิธีมาแนะนำช่วยประเทศไทยต่อไป พร้อมกันนี้พรรคเพื่อไทยได้เสนอจีนว่าต้องการที่จะจัดกิจกรรมระหว่างทั้งสองประเทศในการพัฒนาผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เก่งๆ เช่น ผู้บริหารของหัวเว่ย และเท็นเซ็นต์ ก็อยากที่จะมีการพัฒนาให้สามารถส่งเสริมการค้าระหว่างกันมากขึ้น ซึ่งทางจีนเองก็แสดงความจริงใจที่อยากจะเชิญพรรคเพื่อไทยเพื่อไปดูงานที่ประเทศจีน เพราะมีหลายเมืองที่โตได้เร็วและทางจีนประสบปัญหาในการโตของเมืองมาก่อน ซึ่งจะเป็นประสบการณ์และแนวทางให้พรรคเพื่อไทยสามารถเอาประสบการณ์ ของจีนไปแก้ไขปัญหาในประเทศไทยต่อไป

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวชื่นชมพรรคคอมมิวนิสต์จีนว่ามีความเข้มแข็งมาก ส่วนทางพรรคเพื่อไทยได้เปลี่ยนชื่อมาหลายครั้งแล้ว และพรรคการเมืองในประเทศไทยเวลานี้ดำเนินบทบาททางการเมืองเป็นอย่างยากลำบากมาก ช่วงท้ายในการสนทนาระหว่างพบปะหารือกันทั้งสองฝ่ายได้หยิบยก กรณีรถไฟไทย-จีนขึ้นมาพูดคุยแลกเปลี่ยน โดยในประเทศไทยได้ริเริ่มโครงการนี้สมัยรัฐบาลพรรคไทยรักไทย และยังมีอีกหลายโครงการ ทั้งโครงการรถไฟ และโครงการเพิ่มน้ำ ที่ได้พูดคุยและริเริ่มความร่วมมือกันมาตั้งแต่ยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย ซึ่งเป็นที่น่าเสียดาย โครงการเหล่านั้นยังคงล่าช้าจนถึงตอนนี้ ทำให้ประเทศไทยเสียโอกาสมากมาย