“คารม” ชี้ ส.ว.แต่งตั้งค้านแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ดีว่าลดอำนาจตัวเอง

“คารม” ชี้ ส.ว.แต่งตั้งค้านแก้รัฐธรรมนูญ เพราะรู้ดีว่าลดอำนาจตัวเอง ซัด ชอบอ้างผลประชามติ ทั้งที่ฝ่ายค้านรณรงค์ไม่ได้-ถูกจับกุม

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน นายคารม พลพรกลาง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคอนาคตใหม่(อนค.) กล่าวถึงกรณีที่ ส.ว.แต่งตั้ง คัดค้านข้อเสนอของนายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนค. ที่เสนอแก้ไขอำนาจของส.ว.ในการลงมติเลือกนายกฯร่วมกับส.ส. ในรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่า การอภิปรายคุณสมบัติของแคนดิเดตนายกฯก่อนให้สมาชิกรัฐสภาลงมติ เมื่อวันที่ 5 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้สังคมเห็นแล้วว่า มีปัญหาทั้งคุณสมบัติส่วนตัวของแคนดิเดตนายกฯ และกลไกการลงมติเลือกนายกฯ ที่บทหลัก มาตรา 159 ของรัฐธรรมนูญกำหนดให้เป็นอำนาจส.ส.อย่างเดียว แต่การดำเนินการตามบทเฉพาะกาลมาตรา 272 ทำให้เห็นว่า การให้ส.ว.แต่งตั้งร่วมลงมติเลือกนายกฯนั้น ขัดต่อหลักประชาธิปไตยสากล ซึ่งตนเชื่อว่า ส.ว.แต่งตั้ง เช่น นายวันชัย สอนศิริ นายเสรี สุวรรณภานนท์ ก็ย่อมรู้ว่าหากแก้ไข จะทำให้อำนาจของส.ว.แต่งตั้งลดลง

นายคารม กล่าวว่า การคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญของส.ว.แต่งตั้ง โดยอ้างว่า จะส่งผลกระทบต่อการบริหารประเทศนั้น ไม่เป็นความจริง การทำหน้าที่ของฝ่ายบริหารและนิติบัญญัติ สามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ ซึ่งการแก้ไขรัฐธรรมนูญก็เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของพรรคอนค. เพื่อให้สังคมไทยกลับมาอยู่กับหลักประชาธิปไตย อำนาจการลงมติเลือกนายกฯต้องอยู่ที่ส.ส.ที่มาจากการเลือกตั้ง และหากปล่อยให้ส.ว.แต่งตั้งมีอำนาจตามมาตรา 272 ก็จะทำให้ส.ว.แต่งตั้งที่มีวาระ 5 ปี มีอำนาจโหวตนายกฯร่วมกับส.ส.ที่มีวาระ 4 ปี ถึง 2 วาระ สำหรับการอ้างผลการทำประชามตินั้น ก็ต้องชี้แจงให้ชัดด้วยว่า การทำประชามติเมื่อปี 2559 เกิดขึ้นภายใต้มาตรา 44 ซึ่งไม่เสรีและเป็นธรรม มีการสร้างวาทกรรมให้รับไปก่อนค่อยแก้ที่หลัง อีกทั้งฝ่ายคัดค้านไม่อาจรณรงค์ได้อย่างเต็มที่ และมีการจับกุมคุมขังคนที่เห็นต่างด้วย

มติชนออนไลน์