วันที่ 10 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 9 มิถุนายนที่ผ่านมา นายยืนยง โอภากุล หรือแอ๊ด คาราบาว กล่าวถึงการผลักดันกัญชาเพื่อใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ ระหว่างร่วมกับศิลปินจำนวนมากแสดงคอนเสิร์ตที่บริเวณลานพระบรมราชานุสรณ์ดอนเจดีย์ อ.ดอนเจดีย์ จ.สุพรรณบุรี ว่า นายเดชา ศิริภัทร หมอพื้นบ้านและประธานมูลนิธิขวัญข้าว ขณะนี้เป็นหมอพื้นบ้านแล้ว แต่ไม่สามารถที่จะทำน้ำมันกัญชาแจกชาวบ้านได้ ซึ่งมีผู้ป่วยอยู่ในมือหลายพันถึงหมื่นราย จึงได้ไปติดต่อขอนำกัญชาของกลาง จำนวน 22 ตัน จากสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ว่าจะขอนำมาใช้ แต่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ระบุว่าใช้ไม่ได้เพราะมีสารปนเปื้อน ซึ่งเป็นสิ่งที่นายเดชาเสียดายมาก

“อยากให้ทางรัฐบาลช่วยดูว่า กัญชา 22 ตัน จะสูญหายไปด้วยการทำลาย ตอนนี้อยากให้ชะลอการทำลายไปก่อน เพื่อให้ทางส่วนกลางเข้าไปตรวจสอบ ให้ดูว่าสารปนเปื้อนนี้ว่าจะใช้ในส่วนของน้ำมันกัญชาได้หรือไม่ ถ้าทำลายจะเป็นเรื่องที่หน้าเสียดายมาก ถ้าทำลายถือว่าเป็นการกลบเกลื่อนหลักฐาน กัญชา 22 ตัน สามารถช่วยผู้ป่วยที่เป็นมะเร็งได้ถึง 440,000 คน” แอ๊ด คาราบาว กล่าว

ด้านนายเดชา กล่าวว่า ได้ขอของกลางจากรัฐบาลมาทำยารักษาโรค ซึ่งรัฐบาลมีอยู่ 22 ตัน และ ป.ป.ส. ก็ให้ แต่ สธ.บอกว่าขอตรวจก่อนว่าปลอดภัยหรือไม่

“พอตรวจแล้วบอกว่าใช้ไม่ได้ ใช้ได้แค่ 7 กิโลกรัมเท่านั้น ซึ่งได้ให้หน่วยงานอื่นไปแล้ว และบอกว่าไม่ปลอดภัยเขาจะนำไปทำลาย จึงขอวอนและจะขอให้ไปตรวจสอบใหม่ ถ้าตรวจแบบนี้พืชผักในตลาดก็มีสารปนเปื้อนทั้งนั้น แต่ไม่เกินขีดกำหนด เชื่อว่ากัญชาตัวอย่างที่เอาไปตรวจมันมีสารปนเปื้อน แต่เชื่อว่าไม่เป็นอันตรายกับคน ถ้าเกินเราก็จะนำมาสกัดเสียก่อน ถ้าเกินอีกก็จะนำไปเจือจางให้เหลือ 3% ซึ่งเป็นสูตรที่เราใช้จริง จริงๆ แล้วต้องตรวจตอนที่เป็น 3% ที่ให้คนไข้ใช้ อันนี้เขาตรวจแต่วัตถุดิบ ถ้า สธ.จะทำลาย เราก็จะฟ้องเพราะคนป่วยรอเราอยู่ กัญชา 1 กิโลกรัม จะรักษาผู้ป่วยได้ 20 คน เป็นอย่างน้อย” นายเดชา กล่าวและว่า เชื่อว่า สธ.มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะถ้ากัญชา 22 ตัน รักษาผู้ป่วยได้ ก็ไม่ต้องซื้อยาจากใคร บริษัทยาก็จะเดือดร้อน และ สธ.มีแผนจะนำกัญชานำเข้ามาจากต่างประเทศเสียเอง ซึ่งไม่มีเหตุผล

มติชนออนไลน์