ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 8 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเจรจาต่อรองโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ที่มีพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นแกนนำ หลังเลือกนายกรัฐมนตรี เริ่มชัดเจนขึ้น โดยพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ยืนยันในการเจรจาต่อรองครั้งแรกที่ได้พูดคุยกันไว้ คือ รมว.พาณิชย์, รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ซึ่งพรรค พปชร.ต้องการเก้าอี้รมว.พาณิชย์ และรมว.เกษตรและสหกรณ์คืน จึงยื่นเงื่อนไขต่อรองใหม่
โดยเสนอให้ รมว.ศึกษาธิการ และเพิ่มรมว.ยุติธรรม หรือรมว.ต่างประเทศ บวกกับ 1 รัฐมนตรีช่วย เพื่อแลกกับรมว.พาณิชย์ หากพรรคประชาธิปัตย์ตกลง ก็เป็นไปได้ที่ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรคปชป. จะเป็นรองนายกฯ ควบรมว.ศึกษาธิการ หรือหากเป็นกระทรวงยุติธรรม อาจมีชื่อ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค มาเป็นรมว.ยุติธรรม ซึ่งเป็นอดีตรมว.ยุติธรรมมาก่อน ส่วน นายถาวร เสนเนียม อาจจะเป็นรมช.มหาดไทย
ส่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ก่อนหน้านี้กลุ่มสามมิตร พยายามทวงคืนให้ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน มีแนวโน้มจะยกให้พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมีรายงานว่า นายสมศักดิ์ อาจยอมถอยและจะไปนั่งรัฐมนตรีกระทรวงอื่นแทน ซึ่งหากเป็นไปตามนี้ จะมีชื่อ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรคปชป. มานั่งตำแหน่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ แต่ทั้งนี้ ยังต้องรอการตัดสินใจของพรรคปชป.อีกครั้ง
ขณะที่โควต้ารมว.คมนาคม ซึ่งในการเจรจารอบแรกได้เสนอให้พรรคภูมิใจไทย (ภท.) แต่พรรคพปชร. พยายามที่จะทวงคืน โดยเบื้องต้นพรรคภท. ยอมที่จะคืนให้พปชร.โดยแลกกับกระทรวงพลังงาน ทำให้พรรคภท. จะได้รองนายกฯ ควบรมว.สาธารณสุข รมว.พลังงาน รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา
ส่วนโควต้าของพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) เจรจาจบแล้ว โดยจะได้ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และรมช.เกษตรฯ ขณะที่พรรคชาติพัฒนา จะได้โควตา รมช.อุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การจัดตั้งรัฐบาลคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งเกิดจากการเจรจาผ่านแกนนำพรรคแต่ละฝ่าย ยังไม่ถือเป็นข้อสรุป เพราะทั้งหมด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็นผู้พิจารณาตัดสินใจถึงความเหมาะสมอีกครั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเที่ยงวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา แกนนำพรรคพปชร. ได้เดินทางไปพบกับ พล.อ.ประยุทธ์ ที่สถานที่แห่งหนึ่ง โดยนายกฯได้เน้นย้ำขอให้เร่งจัดทำนโยบายตั้งแต่เนิ่น ๆ โดยให้ยึดแนวทางปฏิรูป 11 ด้าน และกรอบยุทธศาสตร์ชาติ เนื่องจากนโยบายแต่ละพรรคมีความแตกต่างกัน
โดยจะแบ่งเป็นแต่ละด้าน อาทิ เศรษฐกิจ สังคม การศึกษา สวัสดิการ นอกจากนี้ ในการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคพปชร.ครั้งต่อไป จะมีการนำรายชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี และข้าราชการการเมือง ได้แก่ ที่ปรึกษารัฐมนตรี เลขานุการรัฐมนตรี ผู้ช่วยรัฐมนตรี ให้ที่ประชุมเห็นชอบ ซึ่งเป็นตามข้อบังคับพรรค และ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง