เมื่อวันที่ 6 มิถุนายน นายประพัฒน์ ปัญญาชาติรักษ์ ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ เปิดเผยว่า ขณะนี้สภาเกษตรกรฯ อยู่ระหว่างเตรียมเอกสารและเตรียมพื้นที่ปลูก เนื่องจากสภาเกษตรกรฯ ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐเหมือนกับมหาวิทยาลัย ดังนั้นจึงมีกระบวนการดำเนินการหลายขั้นตอนล่าช้ากว่าหน่วยงานอื่น

“หลังจากเมื่อไม่นานมานี้ได้ร่วมลงนามเอ็มโอยูกับกรมการแพทย์แผนไทยและแพทย์แผนทางเลือกในการวิจัยและพัฒนาพืชกัญชาเพื่อประโยชน์ทางราชการ ภายใต้กรอบและเงื่อนไขที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่งได้มีพี่น้องชาวเกษตรกรโทรมาหาผมเพื่อสอบถามจำนวนมาก เนื่องจากเข้าใจคลาดเคลื่อนว่าเป็นการปลูกเพื่อขายและทำกำไร ขอชี้แจงว่า การที่สภาเกษตรกรฯ ได้ร่วมมือปลูกกัญชา ไม่ได้เป็นการปลูกเพื่อขาย แต่เพื่อส่งผลิตตามกฎหมายและนำมาใช้ทางการแพทย์ โดยมีวัตถุประสงค์ คือ 1.สภาเกษตรกรฯ ต้องการศึกษาขั้นตอน การขออนุญาตปลูกภายใต้กรอบและเงื่อนไขที่ถูกต้องและเป็นไปตามกฎหมาย 2.เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบต้นทุนการผลิต และสายพันธุ์ เพื่อให้ได้มาตรฐานแบบเมดิคัลเกรด และ 3.เปรียบเทียบคุณภาพในแต่ละสายพันธุ์ จึงขอย้ำว่าไม่ได้ปลูกเพื่อขาย แต่ปลูกเพื่อนำกัญชามาใช้ในการแพทย์ ถ้าเราไม่ทำ ก็ไม่มีใครทำ ซึ่งในการปลูกนั้น เราก็ควักกระเป๋าเองเพื่อประโยชน์ต่อผู้ป่วยและส่วนรวม” นายประพัฒน์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า สภาเกษตรกรฯ ต้องการเห็นรัฐบาลใหม่และรัฐมนตรีว่ากระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เข้ามาบริหารและผลักดันนโยบายที่เกี่ยวข้องกับกัญชาในทิศทางใด นายประพัฒน์ กล่าวว่า ความจริงพรรคการเมืองที่มีนโยบายในการผลักดันเรื่องกัญชาชัดเจนที่สุด คือ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ขณะเดียวกัน สภาเกษตรกรฯ ยังได้มีการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคและผู้แทนพรรค ในเรื่องการผลักดันนโยบายทางกัญชาแล้ว ซึ่งหากพรรค ภท.ได้ประกาศนโยบายชัดเจนแล้วจะต้องเอามาบริหารให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยสภาเกษตรกรฯ พร้อมที่จะสนับสนุนนโยบายดังกล่าว และเข้าไปมีส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดประสิทธิผลต่อเกษตรกรไทย

“เราอยากเห็นการปรับเปลี่ยนทัศนคติของผู้บริหาร สธ. เพราะยังคงความเข้มงวดกันมากเกินไป โดยเฉพาะในเรื่องการยังคงให้กัญชาเป็นยาเสพติด โดย ณ วันนี้ สภาเกษตรกรฯ ขอยืนยันจุดยืนเดิมในการเสนอให้ถอดกัญชาออกจากพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ประเภท 5 พร้อมเสนอให้ยกร่าง พ.ร.บ.ฉบับใหม่ขึ้นมา เป็น พ.ร.บ.กัญชา กัญชงและพืชกระท่อม และให้ยกเลิกเป็นยาเสพติดทันที เพื่อประโยชน์ต่อประเทศชาติและคนไทยโดยรวม” นายประพัฒน์ กล่าว

มติชนออนไลน์