‘สิระ’ ปลุกทวงคืนเก้าอี้รมต.สำคัญจากพรรคร่วม ชี้ พปชร.ได้ส.ส.เยอะสุด มาจากทุกภาค

วันนี้ (6 มิ.ย.) นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงที่ประชุมร่วมรัฐสภาลงมติเสียงข้างมากเลือกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯว่า ภาคภูมิใจที่สมาชิกรัฐสภาเคารพเสียงของประชาชน แต่ขณะนี้ภายใน พรรค พปชร. มีความกังวลอย่างมากเกี่ยวกับกระแสข่าวแต่งตั้งบุคคลเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรี ที่อาจเป็นอุปสรรคต่อการขับเคลื่อนนโยบายที่พวกเราได้หาเสียงไว้กับประชาชนทั่วประเทศ

จึงอยากฝากไปยังนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค ผู้ได้รับมอบหมายให้ประสานจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคร่วมรัฐบาลว่า เราในฐานะแกนหลักของรัฐบาลต้องได้ดูแลกระทรวงสำคัญต่างๆ เพื่อสานงานของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ รวมทั้งขับเคลื่อนงานนโยบายที่หาเสียงไว้

นายสิระ กล่าวว่า พปชร. ควรได้กระทรวงสำคัญที่ดูแลเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน และพัฒนาระบบคมนาคมขนส่ง ซึ่งรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ริเริ่มไว้หลายโครงการ รวมทั้งการแก้ปัญหาพืชผลทางการเกษตรที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วน หากพปชร.ไม่ได้ดูแลกระทรวงที่สามารถทำงานเข้าถึงประชาชนได้อย่างแท้จริงจะเกิดปัญหาในระยะยาว เพราะเราจะไม่สามารถทำงานตามที่รับปากกับประชาชนได้ ผู้ใหญ่ในพรรคต้องให้ความสำคัญว่าเราไม่ใช่พรรคเฉพาะกิจ

หากจะทำการเมืองต่อไปต้องดูแลภาคเกษตร ไม่ว่าจะเป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ พืชผลทางการเกษตร ส.ป.ก.4.0 ซึ่งส.ส.ส่วนใหญ่ก็เห็นด้วย เพราะเราเคยหาเสียงไว้ หากเราไม่ได้ดูแลกระทรวงสำคัญ อาทิ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ก็ไม่สามารถผลักดันโครงการต่างๆ ได้อย่างเต็มที่

นายสิระ กล่าวว่า ดังนั้น อยากให้ผู้บริหารพรรคและกรรมการบริหารพรรคทุกคนเข้าใจในสิ่งที่เราเคยรับปากกับประชาชนในการหาเสียงไว้ด้วย เพราะนโยบายเหล่านี้ทำให้เราได้ส.ส.ถึง 116 ที่นั่ง อีกทั้งเป็นเพียงพรรคเดียวที่มีส.ส.จากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ เราไม่ควรโกหกประชาชน และควรปกป้องสิทธิในฐานะพรรคแกนหลักจัดตั้งรัฐบาล

นายอนุชา น้อยวงศ์ ส.ส.พิษณุโลก พปชร. กล่าวว่า อดีตกลุ่มสามมิตรได้ปราศรัยและช่วยเหลือประชาชนทั่วประเทศก่อนเข้าสังกัด พปชร. ได้สัมผัสและรับฟังปัญหาของเกษตรกรมาตลอด จึงเห็นว่า นโยบายด้านการเกษตรถือเป็นภารกิจสำคัญ ของ พปชร. ที่ต้องขับเคลื่อนเร่งด่วน เพื่อคลี่คลายวิกฤตความเดือดร้อนของประชาชน เราจึงควรมีคนของพปชร.เข้ารับตำแหน่งรมว.เกษตรฯ ส่วนบุคคลใดเหมาะสมนั้น ถือเป็นอำนาจของนายกฯ ในฐานะหัวหน้ารัฐบาล

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับความเคลื่อนไหวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล โดยเฉพาะตำแหน่งรัฐมนตรีหลังจากที่มีการโหวตเลือกพล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี พรรคพปชร.จะเร่งหาหารือเพื่อให้ได้ข้อยุติในเรื่องของการจัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ รวมถึงพิจารณารายชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมที่จะเป็นรัฐมนตรี

ทั้งในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลและภายในพรรคเอง เพื่อเตรียมนำรายชื่อดังกล่าวให้พล.อ.ประยุทธ์ ใช้ดุลพินิจพิจารณาความเหมาะสม จัดสรรตำแหน่งรัฐมนตรี ตามที่ได้มีการหารือกันไว้กับพรรคที่จะร่วมรัฐบาล ขณะนี้ยังมีเวลาที่จะให้พรรคร่วมรัฐบาลได้พูดคุยในรายละเอียดในตำแหน่ง และระบุรายชื่อที่จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีในรัฐบาลให้เรียบร้อยก่อน ในส่วนของพรรคพปชร.คาดว่าแกนนำพรรคจะหารือถึงเรื่องดังกล่าวในวันที่ 7 มิ.ย.นี้

 

มติชนออนไลน์