“พิชัย” ลั่น “ประยุทธ์” ยังไงก็ไม่เหมาะนั่งนายกฯ ปูดมีบังคับทุนต่างชาติบริจาคเงินเข้ามูลนิธิเพื่อหนุนพรรคการเมือง

วันที่ 4 พฤษภาคม 2562 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน กล่าวในงาน เสวนาโต๊ะกลม : ข้อเสนอของประชาชน ต่อการเลือกนายกรัฐมนตรี” จัดโดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ว่า จากระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา ได้พิสูจน์แล้วว่า พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้มีความเหมาะสมจะเป็นนายกรัฐมนตรีตั้งแต่แรก และก็ไม่ควรจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีก ทั้งนี้ตลอด 5 ปีได้จากที่ทั้งฟังและทั้งติดตามผลงานของพลเอกประยุทธ์ พบว่าขาดทั้งองค์ความรู้ และขาดทั้งวิสัยทัศน์ โดยประชาชนจะจำได้ดีว่า พลเอกประยุทธ์ได้เสนอให้ไทยผลิต แปรงสีฟัน ยาสีฟัน รองเท้าแตะ ขายทั่วโลก ทั้งนี้เพราะมีกรอบคิดได้เพียงว่าทหารทุกคนต้องใช้ ต่อมาได้เสนอให้ชาวนาปลูกหมามุ่ยแทนการปลูกข้าวที่ราคาลดลงโดยไม่รู้เลยว่าหากปลูกหมามุ่ยจำนวนมากๆแล้วจะไปขายที่ไหน และแก้ปัญหาราคายางตกต่ำไม่ได้ก็ให้ชาวสวนยางส่งยางพาราไปขายดาวอังคาร อีกทั้งในช่วงน้ำท่วมก็บอกให้ประชาชนไปเลี้ยงปลาทั้งๆที่ปริมาณน้ำจะต้องลดลง หรือให้ประชาชนปลูกมะนาวกินเองในช่วงมะนาวราคาแพง เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสั่งให้ ครม. ท่องจินดามณี แต่ตัวเองกลับท่องผิดเรื่อง และล่าสุดยังแนะนำให้ประชาชนอ่านหนังสือ แอนนิมอลฟาร์ม ทั้งๆที่มีเนื้อหาตำหนิเผด็จการโดยตรงไม่ต่างกับสถานการณ์ในประเทศไทยตอนนี้

“ตลอด 5 ปี เศรษฐกิจไทยตกต่ำมาตลอด ไม่ว่าเศรษฐกิจโลกจะดีหรือแย่ เศรษฐกิจไทยก็แย่ ยิ่งไตรมาสแรกปีนี้ยิ่งหนัก ขนาดแจกเงินมโหฬาร เศรษฐกิจยังโตได้แค่ 2.8 % และ จะไม่มีทางที่จะขยายตัวเท่าการโตของประเทศเพื่อนบ้านได้เลย หากพลเอกประยุทธ์ยังเป็นนายกต่อ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องลำบากกันอย่างมาก โดยรัฐบาลพึ่งมาช่วยในช่วงสุดท้ายก่อนเลือกตั้ง เปรียบเทียบแล้วเหมือนกับการปล่อยประชาชนอยู่ในทะเลทรายเป็นเวลานาน แล้วพึ่งนำน้ำเล็กน้อยมาให้ โดยหวังว่าประชาชนจะซาบซึ้ง แต่ประชาชนฉลาดและคิดได้ว่าใครนำมาปล่อยให้อยู่ในทะเลทรายแต่แรก” นายพิชัย กล่าว

นายพิชัยกล่าวด้วยว่า ดังนั้น ผลการเลือกตั้งหากพิจารณาให้ดีจะพบว่า สส. ที่มาจากพรรคการเมืองที่ประกาศไม่เอาพลเอกประยุทธ์เป็นนายกฯ ต่อ มีมากกว่า 350 เสียง ซึ่งรวมถึงพรรค ปชป และ พรรค ภูมิใจไทยด้วย ดังนั้น จึงอยากให้ทุกพรรคการเมืองสำนึกให้ดีว่าสัญญาอย่างไรไว้กับประชาชน ตลอด 5 ปี นี้ การพัฒนาธุรกิจด้านเทคโนโลยีของไทยอยู่ในระดับต่ำมากในขณะที่ประเทศในอาเซียนพัฒนาไปมากกว่าไทยมาก อีกทั้ง นอกจากที่การลงทุนภาคเอกชนจะหดหายแล้ว

ทั้งนี้ นายพิชัยกล่าวว่า ล่าสุดได้รับข้อมูลว่ามีการบังคับบริษัทของนักลงทุนจากต่างประเทศให้บริจาคเงินเข้ามูลนิธิเพื่อนำไปสนับสนุนพรรคการเมืองที่สนับสนุนรัฐบาล จึงอยากให้ กกต ได้ตรวจสอบเรื่องนี้ ดังนั้นจากเหตุผลทั้งหมดจึงจะเห็นได้ว่าหากพลเอกประยุทธ์กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ประเทศไทยจะไม่สามารถพัฒนาได้และจะตกยุคอย่างรวดเร็ว