ร้อง ป.ป.ช.-ผู้ตรวจการฯเอาผิด’บิ๊กตู่-คสช.’ประกาศรายชื่อสว.สำรองไม่ครบ

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ได้ลงนามเสนอให้แต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา (สว.)จำนวน 250 คน ต่อมามีประกาศ คสช.ฉบับที่ 1/2562 กำหนดรายชื่อบุคคลสำรอง สำหรับการคัดเลือกให้ดำรงตำแหน่ง สว. ตาม พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 ออกมาพร้อมกันจำนวน 50 คน ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม2562 ที่ผ่านมา พบว่าการประกาศรายชื่อ สว.สำรองของ คสช.ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 269 (ค) ประกอบ มาตรา 90 (ค) และ มาตรา 98 แห่ง พรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 ที่กำหนดว่าจะต้องประกาศรายชื่อสำรอง 50 คนจากบัญชีรายชื่อ สว.ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ส่งให้เลือกจำนวน 200 คน ตามบัญชี (ก) และอีก 50 คนจากบุคคลที่คณะกรรมการสรรหาเสนอจำนวน 400 คน ตามบัญชี (ข) แต่ปรากฏว่าพล.อ.ประยุทธ์ ลงนามประกาศบัญชีรายชื่อ สว.สำรองเพียง 50 คนเท่านั้น และไม่มีใครทราบว่าบัญชีรายชื่อ สว.สำรอง 50 คนที่ประกาศมาจากระบบบัญชีใด

“ การประกาศรายชื่อ สว.สำรองเพียง 50 คน จะทำให้เกิดปัญหาในการขยับรายชื่อ สว.ขึ้นมาแทน หาก สว.ตัวจริงอาจหลุดจากตำแหน่งไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา111 ซึ่งจะต้องคัดเลือกบุคคลจากบัญชีสํารองเพื่อแทนตําแหน่งที่ว่าง ตาม มาตรา 90(4) และตาม มาตรา 98 แม้กฎหมายให้นําความใน มาตรา 45 วรรคสอง แห่งพรป.ว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา 2561 มาใช้บังคับด้วยโดยอนุโลมก็จะไม่สามารถทำได้ ความผิดพลาดล้มเหลวของพล.อ.ประยุทธ์ ในครั้งนี้เป็นเรื่องใหญ่ อาจถือได้ว่า เป็นความย่อหย่อนในการปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎหมายแม่บท จะก่อให้เกิดปัญหาและความสับสนอลหม่านของชาติบ้านเมืองในอนาคต และไม่เหมาะสมที่ใครจะเสนอชื่อเพื่อโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีอีกครั้งในวันที่ 5 มิถุนายนนี้ “นายศรีสุวรรณ กล่าว

นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯจะนำความไปร้องเรียนต่อ ป.ป.ช.ให้ดำเนินสอบสวนเอาผิดพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. ตามกฎหมาย ป.ป.ช.2561 ต่อไป โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันที่ 5 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ที่สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ ปากเกร็ด นนทบุรี และเวลา 11.00 น.จะเดินทางไปยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ศูนย์ราชการฯ อาคาร B ห้อง 902 เพื่อให้ใช้อำนาจตาม มาตรา 231(2) เพื่อเสนอความเห็นต่อศาลปกครองวินิจฉัยต่อไป