จีดีพีไตรมาสแรกโต 2.8% ต่ำสุดรอบ 4 ปี | พณ.สั่งตรึงราคาจานด่วน-ค้าปลีก | ททท.มั่นใจรายได้ทะลุ 3.4 ล้านล้าน

จีดีพีไตรมาสแรกโต 2.8% ต่ำสุดรอบ 4 ปี

นายทศพร ศิริสัมพันธ์ เลขาธิการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กล่าวว่า อัตราการขยายตัวเศรษฐกิจ (จีดีพี) ไทยไตรมาสแรก ปี 2562 เติบโต 2.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน และเติบโต 1.0% เทียบกับช่วงไตรมาสที่ 4 ปี 2561 เป็นการเติบโตต่ำสุดรอบ 17 ไตรมาส นับจากไตรมาสที่ 4 ปี 2557 และการส่งออกติดลบ 3.6% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนจากชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการค้าโลก สศช.จึงปรับประมาณการจีดีพี ปี 2562 ใหม่ คาดว่าจะเติบโต 3.6% กรอบประมาณการ 3.3-3.8% จากเดิม 4.0% การส่งออกคาดเติบโตได้ 2.2% จากเดิม 4.1% ตัวเลขนี้ยังไม่ได้รวมประมาณการกีดกันการค้าอีก 3 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐที่จะมีกับจีน ทั้งนี้คาดว่าครึ่งปีหลังอาจมีแนวโน้มดีขึ้น ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจไทยมาจากด้านต่างประเทศ ทั้งการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและการค้าโลก ผลกระทบสงครามการค้า และหากจัดตั้งรัฐบาลเร็วจะสามารถผลักดันเรื่องงบประมาณประจำปี 2563 ได้เร็ว สามารถเดินหน้าการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ที่ค้างอยู่ และสามารถเตรียมการรับมือผลกระทบสงครามการค้าต่อไทยได้

กพร.ไฟเขียวไลเซนส์ทำเหมืองบิ๊กล็อต

นายวิษณุ ทับเที่ยง อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า ช่วง 4 เดือนแรกปี 2562 คณะกรรมการแร่ที่มีนายอภิจิณ โชติกเสถียร รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ได้อนุมัติคำขอประกอบการกิจการเหมืองแร่ รวม 59 แปลง ประมาณ 5 หมื่นไร่ กระจายทั่วประเทศ คิดเป็นมูลค่าเศรษฐกิจที่ประเทศจะได้รับไม่ต่ำกว่า 1.28 แสนล้านบาท รัฐจะมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4 พันล้านบาทต่อปี ส่วนเดือนพฤษภาคมนี้ คาดว่ากรรมการแร่จะมีการอนุมัติใบอนุญาตต่างๆ อีกประมาณ 15 แปลง เนื่องจากปี 2561 ไม่มีการอนุมัติประทานบัตรและอาชญาบัตรเลย เพราะพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) แร่ฉบับใหม่ ประกาศใช้เดือนสิงหาคม 2560 ดังนั้น ตลอดปี 2561 จึงต้องดำเนินการในส่วนขององค์ประกอบกฎหมายเป็นหลัก

พณ.สั่งตรึงราคาจานด่วน-ค้าปลีก

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน (คน.) กล่าวว่า กรมมุ่งเน้นการทำงานเพื่อดูแลผลประโยชน์และความกินดีอยู่ดีของเกษตรกร ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค รวมถึงทำงานเชิงรุกให้ทันกับเหตุการณ์และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตามนโยบายของรัฐบาลในด้านการดูแลราคาสินค้าเกษตร ดูแลความเป็นธรรมด้านราคาและปริมาณสินค้า การลดภาระค่าครองชีพของผู้บริโภค และส่งเสริมระบบการตลาด รวมถึงร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ปัญหาเกี่ยวข้องกับราคาสินค้า ส่วนการดูแลราคาปาล์มเชื่อว่าในเดือนมิถุนายนนี้ สต๊อกน้ำมันปาล์มจะใกล้เคียงความต้องการใช้จริงและราคาผลปาล์มดีขึ้น ส่วนการคุมราคายาที่เป็นธรรม คาดว่าจะประกาศแนวทางดูแลได้ในเดือนมิถุนายนเช่นกัน ส่วนราคาอาหารพร้อมปรุง เร็วๆ นี้จะหารือกับผู้ประกอบการร้านอาหารและค้าปลีก เพื่อสอบถามต้นทุนและราคาอาหาร หลังประชาชนร้องเรียนว่ามีการปรับราคาซึ่งกรมยังคงขอตรึงราคาขายจานด่วนไม่เกิน 35 บาท

“บินไทย” ขายเครื่องซักผ้า เตาปิ้งหารายได้เสริม

นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2562 การบินไทยมีรายได้รวมทั้งสิ้น 49,791 ล้านบาท กำไรสุทธิ 456 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าปีก่อน 83.3% เนื่องจากการบินไทยประสบกับปัญหาอัตราการแลกเปลี่ยน เพราะมีการใช้สกุลเงินกว่า 50 สกุล แต่ไม่สามารถปรับราคาตั๋วขึ้นได้ และในไตรมาส 3 ของปีนี้จะต้องรักษาอัตราการบรรทุกปริมาณผู้โดยสารให้อยู่ที่ 80% อย่างไรก็ตาม จากผลประกอบการที่ไม่ดีนัก ประกอบกับธุรกิจการบินที่แข่งขันสูง จึงเตรียมทำธุรกิจเสริมเพิ่มขึ้นเพื่อหาได้รายได้เข้าบริษัท ด้วยการออกธุรกิจใหม่ขายสินค้าอีคอมเมิร์ซบนเว็บไซต์ และผ่านแอพพลิเคชั่นของการบินไทย เช่น เครื่องซักผ้า เตาปิ้ง เรือดำน้ำ เป็นต้น โดยจะเริ่มขายสินค้าในเดือนกันยายนนี้ โดยมีลูกค้ากลุ่มเป้าหมายทั้งคนไทยและต่างชาติ คาดว่าจะสร้างรายได้จากส่วนนี้ไม่ต่ำกว่า 500 ล้านบาท

“คลัง” จ่อหารือ ธปท.แก้เกณฑ์แอลทีวี

นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า กระทรวงการคลังมีแผนที่จะหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อขอให้ผ่อนปรนเกณฑ์การปล่อยสินเชื่อบ้านที่เข้มงวด (แอลทีวี) เนื่องจากเกณฑ์ดังกล่าวได้ส่งผลกระทบให้ยอดการปล่อยสินเชื่อบ้านลดลง ส่งผลต่อธุรกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องได้รับผลกระทบตามไปด้วย ซึ่งกระทรวงการคลังต้องหารือกับ ธปท.เพื่อขอผ่อนปรนนโยบายดังกล่าว

นายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. กล่าวว่า แนวโน้มการขยายตัวสินเชื่อที่อยู่อาศัยชะลอตัวหลังจากมีเกณฑ์แอลทีวีบังคับใช้ ซึ่งผลกระทบที่เกิดขึ้นจะส่งผลดีในอนาคต เพราะจะสามารถลดความร้อนแรงในการซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำไรได้ ซึ่ง ธปท.จะติดตามข้อมูลและประเมินผลกระทบในภาพรวมต่อไป

ททท.มั่นใจรายได้ทะลุ 3.4 ล้านล้าน

นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ททท.ยังคงเป้าหมายประมาณการจำนวนและรายได้นักท่องเที่ยวของทั้งตลาดต่างประเทศและในประเทศ ทั้งปี 2562 ไว้ตามเดิม แม้เศรษฐกิจไทยจะต้องเจอกับความเสี่ยงจากสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว สงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน (เทรดวอร์) รวมถึงค่าเงินบาทที่มีแนวโน้มแข็งค่าเพิ่มขึ้น เพราะเชื่อว่านักท่องเที่ยวไม่ได้กังวลกับสถานการณ์เหล่านี้มากนัก โดยไตรมาสแรกปีนี้ ไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวรวมอยู่ที่ 8.85 แสนล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5% แบ่งเป็น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติ 10.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 3% มีรายได้ 6 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% และจำนวนนักท่องเที่ยวไทย 34.87 ล้านคนครั้ง เพิ่มขึ้น 3% มีรายได้ 2.85 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 6%

ส่วนแนวโน้มตัวเลขท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ททท.คาดว่าจะมีรายได้จากการท่องเที่ยว 3.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 10%