‘หญิงหน่อย’ ลั่น!รักษาสัจจะ ไม่รับตำแหน่งใด ยันเป็นนักรบพูดแล้วไม่คืนคำ!

วันที่ 29 พ.ค. ที่อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ระบุถึงความชัดเจนของพรรคเพื่อไทยในการเสนอแคนดิเดตนายกฯ ว่า เรารวมกัน 7 พรรค 246 เสียงจะต้องหารือก่อน โดยหลักการจะโหวตแคนดิเดตนายกฯ เพียงคนเดียวกันใน 7 พรรค

ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ต้องก่อร่างสร้างประชาธิปไตยก่อน ไม่ใช่เป็นแสวงหาอำนาจ และยังต้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนก่อน เมื่อเลือกตั้งทำให้พรรคฝ่ายประชาธิปไตยเจออภินิหารไม่สามารถมีเสียง 250 เสียงได้

ตนได้พูดไปแล้วจะไม่รับตำแหน่งใดๆและขอเชิญชวนทุกพรรคมาร่วมต่อต้านการสืบทอดอำนาจและพรรคที่จะไม่ร่วมกับพรรคเพื่อไทยนั้น ทางพรรคเพื่อไทยก็ประกาศแล้วจะไม่รับตำแหน่งใดๆเลยขอให้มาร่วมยุติสืบทอดอำนาจ สร้างประชาธิปไตย

“ดิฉันเคยพูดมาแล้วในฐานะนักการเมืองเรื่องคำมั่นสัญญาเป็นเรื่องสำคัญ ดิฉันจะไม่เสียสัจจะที่เคยพูดไปแล้ว แม้ตอนนั้นจะเชิญชวนทุกพรรคให้มาร่วมกับพรรคเพื่อไทยแต่เขาก็ตั้งเงื่อนไข ดิฉันถือคำพูดสำคัญสัจจะที่ให้ไว้คงไม่รับตำแหน่งใดๆได้ แต่อยากให้ฝั่งประชาธิปไตยเดินหน้ายุติการสืบทอดอำนาจให้ได้” คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว

คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า ยังพูดไม่ได้ว่าล่าสุดมีการเสนอชื่อนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ เป็นผู้เสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาเพราะจะเข้าใจผิด จึงต้องหารือกันใน 7 พรรคก่อนถึงวันโหวตนายกฯ

ตนจะพูดก่อนไม่ได้แต่จะพูดในนามส่วนตัวเท่านั้น และ 7 พรรคการเมืองก็จะไม่รอพรรคการเมืองใดแล้วแต่ต้องดูเหตุการณ์ก่อนแล้วถึงจะประชุมกันเพื่อดูว่าจะเสนอใครเป็นนายกฯ ในทิศทางเดียวกัน

ขณะนี้เหลือแคนดิเดตนายกฯ 4 คน ใน 7พรรคตอนนี้เหลือ 3 คน ไม่นับตัวเอง เพราะตนเป็นนักรบตนไม่คืนคำ คือ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ นายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกฯจากพรรคเพื่อไทยและนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งเสนอได้ตามกฎหมายกำหนด

“ดิฉันเป็นแม่ทัพเป็นนักรบในวันที่ยากได้การมีส่วนร่วมของคนอื่นพรรคอื่นเพราะเสียงเราไม่ข้าม 250 เสียง แต่วันนี้เป็นเรื่องต่อรองกระทรวงไม่มีใครพูดถึงคำมั่นสัญญาที่เคยให้ไว้ ดิฉันไปตอบแทนพรรคการเมืองอื่นไม่ได้เพราะวันนี้ข่าวต่อรองกระทรวง ในส่วนพรรคประชาธิปไตยจะจับมือเดินหน้าไม่รอการต่อรองกระทรวงอะไร เพราะตอนนี้ชาวบ้านเดือดร้อน” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว