‘ชูศักดิ์’ ชี้การเมืองไทยย้อนสู่ยุคงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ไม่คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมใดๆ

เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม นายชูศักดิ์ ศิรินิล คณะกรรมทำงานฝ่ายหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่าจากการติดตามการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) การเลือกประธาน และรองประธานสภาผู้แทนราษฏรที่ผ่านมา เห็นว่าการเมืองไทยดูเหมือนจะย้อนยุคไป 30-40 ปี

“กลับไปสู่วังวนน้ำเน่า มีงูเงี้ยวเขี้ยวขอ การเมืองชิงไหวชิงพริบ ทำอย่างไรก็ได้ขอให้ชนะ ไม่คำนึงถึงคุณธรรมจริยธรรมใดๆ น่าห่วงว่าจะไปไม่รอด เคยวิจารณ์ไว้ และน่าจะเห็นตรงกันทุกสำนักว่าการยกร่างรัฐธรรมนูญแบบนี้จะทำให้เกิดพรรคการเมืองกระจัดกระจาย เป็นพรรคเล็กพรรคน้อย รัฐบาลที่จะเกิดขึ้นไร้ประสิทธิภาพไม่มั่นคง เป็นรัฐบาลที่อ่อนแอ จมเมื่อไรก็ได้ ที่ตามมาสภาฯ จะเต็มไปด้วยการต่อรอง แลกเปลี่ยนผลประโยชน์การเลือกประธาน และรองประธานที่ผ่านมาก็เห็นกันแล้ว มีการกระทำที่แปลกๆ หาคำตอบไม่ได้ว่าเป็นยุคปฏิรูปการเมือง การเขียนชื่อนามสกุลเป็นคนละคนกันเลย และมีตัวตนเห็นกันอยู่สามัญสำนึกธรรมดามีใครคิดว่าควรจะเป็นบัตรดีบ้าง ถ้าประชาชนไปเลือกตั้งการทำตำหนิ เครื่องหมายใดๆ บนบัตรเลือกตั้งจะกลายเป็นบัตรเสีย และมีความผิดมีโทษทางอาญา แต่เราก็เห็นปรากฏการณ์ของผู้ทรงเกียรติเกิดขึ้น รัฐธรรมนูญฉบับนี้เขียนให้มีการปฏิรูปการเมือง ให้นำประมวลจริยธรรมมาใช้ ทั้งหมดสวนทางกันโดยสิ้นเชิง แสดงว่าสิ่งที่เขียนไว้กับทางปฏิบัติคนละเรื่องกันเลย เหตุผลใหญ่ๆ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้วางโครงสร้างและที่มาขององค์กรทางการเมืองผิดเพี้ยน องคาพยพทั้งหลายของรัฐธรรมนูญฉบับนี้ก็มาแบบผิดๆ มุ่งสนองตอบต่อการสืบทอดอำนาจเป็นหลัก” นายชูศักดิ์ กล่าวและว่า เห็นได้ชัดเจนจากบทเฉพาะกาล ใช้กลไกรัฐเข้ามามีบทบาทสั่งการเพื่อให้เป็นไปตามความต้องการของผู้มีอำนาจ จึงขอฝากถึงพรรคการเมืองและประชาชนทั้งหลายให้ตระหนักรู้ว่ามีอะไรเกิดขึ้นและจะเกิดขึ้นในอนาคต หาทางแก้ไขเสียก่อนที่จะสายเกินแก้

มติชนออนไลน์