ก.พลังงานจับตาสถานการณ์ความไม่สงบในตะหวันออกกลาง ปตท.สผ.ปรับคาดการณ์น้ำมันดิบดูไบใหม่อาจอยู่ในระดับ 60-80 เหรียญต่อบาร์เรลในปีนี้

นายสราวุธ แก้วตาทิพย์ รองปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบโลกในตลาดโลก ว่า นายศิริ จิระพงพษ์พันธ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้ให้นโยบายติดตามสถานการณ์เพื่อวางแผนรับมือ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบได้ปรับตัวสูงขึ้น โดยน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ประมาณ 72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล โดยปัจจัยที่เป็นผลกระทบมาจากกรณีความไม่สงบในตะวันออกกลาง ที่ท่อขนส่งน้ำมันและสถานีส่งออกน้ำมันดิบและเรือบรรทุกน้ำมันของซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีใกล้บริเวณช่องแคบเฮอร์มุซ เส้นทางเดินเรือส่งออกน้ำมันดิบที่สำคัญ โดยปริมาณน้ำมันดิบที่ส่งผ่านช่องแคบนี้คิดเป็น 20% ของปริมาณน้ำมันดิบทั่วโลก ขณะที่เดิมท่าทีของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมัน(โอเปก)ส่งสัญญาณคงการปรับลดกำลังการผลิตไว้ระดับเดิมจนถึงสิ้นปีนี้ที่ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในการประชุมกลุ่มโอเปกครั้งถัดไป วันที่ 25-26 มิถุนายน 2562 ดังนั้นต้องดูว่าที่ประชุมโอเปกจะมีมตีที่ชัดเจนอย่างไร

“สงครามการค้าสหรัฐและจีนที่รุนแรงเพิ่มมากขึ้น จะเป็นส่วนกดดันราคาน้ำมันไม่ให้สูงขึ้น ดังนั้นกระทรวงพลังงานจึงต้องจับตาสถานการณ์รวมอย่างใกล้ชิด ล่าสุดได้กำชับ บริษัท ปตท.จำกัด(มหาชน) ในฐานะที่เป็นผู้นำเข้าน้ำมันหลักของประเทศ ให้บริหารความเสี่ยงให้มากที่สุด เพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้น”นายสราวุธกล่าว

นายมนตรี ลาวัลย์ชัยกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม กล่าวว่า ปตท.สผ.ได้ปรับคาดการณ์ราคาน้ำมันเป็น 60-80 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล จากเดิมปีนี้อยู่ในช่วง 60-70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากเกิดหลายเหตุการณ์กระทบตลาดโลกทำให้ราคาขยับขึ้น หากราคาสูงขึ้นมีผลต่อผลดำเนินงานให้ดีขึ้น ส่วนการปรับแผนการลงทุนจะเกิดขึ้นในกลางปีนี้

มติชนออนไลน์