“ณัฐวุฒิ” เผยไม่ขัดข้อง “อนุทิน” นั่งนายกฯ แต่สงสัย “อภิสิทธิ์” เตือนจับมือตั้งรบ. ต้องมาด้วยอุดมการณ์

ไม่มาทั้งใจกลับไปเสียดีกว่า ‘ณัฐวุฒิ’ ไม่ขัดข้อง ‘อนุทิน’ นั่งนายกฯ หากมาด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตย ขณะเดียวกันตั้งข้อสังเกตความชอบธรรม ‘อภิสิทธิ์’ เหตุถูกปฏิเสธจากทั้งมวลชน ผู้สนับสนุนและสมาชิกประชาธิปัตย์ มีปัญหาจุดยืนปชต. หากจับมือตั้งรัฐบาล ต้องเชื่อมั่นหลักการ ไม่ใช่มาเพราะสมประโยชน์ได้เก้าอี้

วันที่ 17 พฤษภาคม 2562 นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) และอดีตประธานทีมยุทธศาสตร์การรณรงค์หาเสียงของพรรคไทยรักษาชาติ กล่าวในรายการ ‘หัวใจไม่หยุด ‘เต้น’’ เผยแพร่ทางแฟนเพจ ‘นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ’ เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2562 ถึงกรณีพรรคการเมืองจับขั้วจัดตั้งรัฐบาล โดยมีข้อสังเกตต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ‘ในช่วงเวลาของการจับขั้วตั้งรัฐบาลซึ่งเต็มไปด้วยข่าวสารมากมาย มีความเห็นที่อยากจะแลกเปลี่ยนกันไว้ตรงนี้ครับ ผมคิดว่า หลักสำคัญของการต่อต้านการสืบทอดอำนาจที่ทุกพรรคการเมืองจะต้องทำให้สำเร็จลุล่วงไปด้วยกัน คือต้องเชื่อมโยงกันด้วยอุดมการณ์และจุดยืนประชาธิปไตยเท่านั้น ผมเอาใจช่วยพรรคเพื่อไทย ชื่นชมพรรคอนาคตใหม่ และเป็นกำลังใจให้กับทุกพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย ที่ประกาศจุดยืนต่อต้านการสืบทอดอำนาจ จริงๆ เรื่องนี้ เป็นสิ่งที่ทุกพรรคการเมืองต้องมี แต่ในโลกของความเป็นจริง หลายพรรคที่เราเห็นอยู่ ตั้งขึ้นมาและขับเคลื่อนเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจโดยเฉพาะ ไม่ต้องใช้กล้องจุลทรรศน์ล่ะครับ

“พรรคไหนเป็นยังไง มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ถ้า 7 พรรคการเมือง ซึ่งได้ประกาศสัตยาบันร่วมกันตั้งแต่ช่วงต้นยังคงยืนยันหลักการเหมือนเดิม นี่เป็นเรื่องที่น่าชื่นชมอย่างยิ่งนะครับ ใน 7 พรรคการเมืองนี้ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี จะเป็นนายกฯ ตัวจริงจากพรรคไหน ส่วนตัวผมยอมรับได้ เพราะถือว่าชัดเจนตั้งแต่ต้นทาง แต่หากมีกระแสข่าวว่า มีการทาบทามเชิญชวนพรรคการเมืองอีกหลายพรรค โดยเฉพาะพรรคการเมืองขนาดกลาง เช่น ประชาธิปัตย์ หรือ ภูมิใจไทย เข้ามาร่วม ในฐานะประชาชน ผมก็สนับสนุนให้ทั้ง 2 พรรค เข้ามาจับมือกันตั้งรัฐบาลของฝ่ายประชาธิปไตย” นายณัฐวุฒิ กล่าว

นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ประเด็นแตกต่างอยู่ตรงนี้ครับ คือผมมีข้อสังเกตว่า ถ้าจะมา ไม่มาทั้งใจ กลับไปเสียดีกว่า ต้องมาด้วยหัวใจประชาธิปไตยเท่านั้นครับ สิ่งที่ประเทศไทยและประชาชนส่วนใหญ่ต้องการ คือ ตัวแทนของประชาชนที่ยืนยันหลักการประชาธิปไตย เด็ดขาด ชัดเจน ไม่ใช่มาอ้างว่าต่อต้านการสืบทอดอำนาจ เพียงมุ่งหวังผลประโยชน์ หรือ เก้าอี้ตัวใหญ่ทางการเมือง

คุณอนุทิน จะเป็นนายกรัฐมนตรี ส่วนตัวผม ไม่มีอะไรขัดข้องล่ะครับ ถ้ามายืนด้วยอุดมการณ์ประชาธิปไตย ส่วนคุณอภิสิทธิ์ ผมมีข้อสังเกตเพิ่มเติมเข้าไปอีกหน่อย ผมคิดว่า วันนี้ในทางการเมือง คุณอภิสิทธิ์ถูกปฏิเสธทั้งจากมวลชนสนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์แต่เดิม และจากสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ในปัจจุบัน ดังนั้น แม้จะเป็นแคนดิเดตหนึ่งเดียวของพรรคประชาธิปัตย์ แต่ความชอบธรรมที่จะมาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมีหรือไม่

ที่สำคัญที่สุดจุดยืนเรื่องประชาธิปไตยที่ผ่านมาของคุณอภิสิทธิ์ เต็มไปด้วยคำถาม มากไปด้วยปัญหา ดังนั้น สิ่งที่ผมอยากจะสื่อสารตรงไปตรงมาก็คือ ให้เค้ามาด้วยความสัตย์จริงต่อประชาชน ว่าเค้าทำเพราะเชื่อมั่นในหลักการประชาธิปไตย อย่าให้เค้ามาเพราะสมประโยชน์กันเรื่องเก้าอี้ เพราะในวันหนึ่งข้างหน้า ท่ามกลางกติกาที่เป็นอยู่ ในสถานการณ์ทางการเมือง ซึ่งฝ่ายไหนตั้งรัฐบาลได้ ก็จะไม่มีเสถียรภาพ ใครจะไปรู้ล่ะครับ วันหนึ่งอาจจะเกิดการพลิกขั้วย้ายข้าง วันหนึ่งฝ่ายประชาธิปไตยอาจจะถูกหักหลังกลางทาง อย่างที่เคยเป็นมาแล้วก็เกิดขึ้นได้

ส่วนตัวผมนะครับ ฝ่ายประชาธิปไตย ต้องยืนอยู่กับโลกของความเป็นจริง ถ้าตั้งรัฐบาลไม่ได้ แล้วจะต้องเอาสิ่งแปลกปลอมเข้ามาเจือปน เป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรีดีกว่า ผมไม่ได้ปรามาสพรรคการเมืองอย่างประชาธิปัตย์หรือภูมิใจไทยนะครับ แต่ผมคิดว่าประชาชนกำลังรอดู ถ้าคุณอนุทินจะเป็นนายกรัฐมนตรี ก็ให้ชัดเสียตั้งแต่วันนี้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ หลายฝ่ายบอกว่า ถ้ามีมติสนับสนุนพรรคพลังประชารัฐ ถึงคราวที่อาจจะต้องสูญพันธุ์ ก็ต้องปล่อยให้สูญพันธุ์ไปครับ ไม่ใช่หน้าที่ของฝ่ายประชาธิปไตย ที่จะยื่นมือต่อชีวิตทางการเมืองให้ หรือเสนอเก้าอี้ใหญ่ตัวใดๆ

“ส่วนตัวผมเชื่อว่า พลังประชารัฐตั้งรัฐบาลได้ ก็อยู่ไม่นานหรอกครับ และถึงที่สุด ชัยชนะ ก็จะเป็นของฝ่ายประชาธิปไตย ผมคิดของผมแบบนี้ อาจจะถูกใจ หรือไม่ถูกใจใครบ้าง ผมไม่ทราบนะครับ ถ้าพรรคการเมืองฝ่ายประชาธิปไตยเห็นว่า จะตกลงกันได้ทุกพรรค ด้วยตำแหน่งทางการเมือง ด้วยยศศักดิ์ ด้วยเก้าอี้ ผมก็เคารพในสถานะ และการตัดสินใจของทุกท่าน แต่ผมจะยืนยัน ว่า ผมไม่เห็นด้วยครับ” นายณัฐวุฒิ กล่าว