“จาการ์ตาโพสต์” รายงานว่า หลังจากที่รัฐสภาสิงคโปร์ได้บังคับใช้กฎหมายป้องกันการหลอกลวงและการกระทำอันเป็นเท็จในสื่อออนไลน์ เมื่อวันที่ 8 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งถูกวิจารณ์อย่างหนักว่ากฎหมายนี้จะถูกใช้เพื่อปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น

ล่าสุด “กูเกิล” บริษัทด้านเทคโนโลยียักษ์ใหญ่มองว่า “เป็นห่วงว่ากฎหมายนี้จะทำลายนวัตกรรมและการเติบโตของระบบนิเวศสารสนเทศดิจิทัล”

ทั้งนี้ กระบวนการของกฎหมายนี้ เจ้าหน้าที่จะแจ้งเตือนไปยังแพลตฟอร์มสื่อออนไลน์ให้แก้ไขหรือลบเนื้อหาที่เป็นเท็จ ซึ่งบทลงโทษคือ จำคุก 10 ปี หรือปรับถึง 735,000 ดอลลาร์สหรัฐ

ไซมอน มิลเนอร์ รองประธานาธิบดีด้านนโยบายสาธารณะของเฟซบุ๊ก ประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก กล่าวว่า “เรากังวลเกี่ยวกับทิศทางของกฎหมายใหม่ ที่ให้อำนาจแก่ทางการสิงคโปร์ในการบังคับให้เราลบเนื้อหาที่พวกเขาพิจารณาว่าเป็นเท็จ”

นอกจากนี้ ฟิล โรเบิร์ตสัน รองผู้อำนวยการของฮิวแมนไรตส์วอตช์ ประจำเอเชีย แถลงการณ์ว่า “พวกเขาพยายามกำหนดความจริงของคนบางกลุ่มบนโลกที่กว้างใหญ่”

การผ่านกฎหมายดังกล่าว เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สิงคโปร์กำลังพยายามผลักดันการเป็นศูนย์กลางทางด้านนวัตกรรมดิจิทัลของโลก ซึ่งก่อนหน้าที่จะบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ รัฐบาลได้หารือกับบริษัทเทคโนโลยีและผ่านการพิจารณาของรัฐสภาเมื่อปีที่ผ่านมา

ทั้งนี้ รัฐมนตรีกระทรวงกฎหมายของสิงคโปร์ชี้แจงว่า “กฎหมายนี้จะไม่กระทบเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น แต่จะช่วยทำลายข่าวเท็จที่แพร่กระจายอยู่บนโลกอินเทอร์เน็ตได้” ซึ่งเร็ว ๆ นี้ทางการสิงคโปร์จะมีการออกแนวการปฏิบัติให้กับผู้ให้บริการในการดำเนินการกับบัญชีที่ไม่ผ่านการตรวจสอบ ซึ่งถูกใช้สำหรับกิจกรรมที่ถูกพิจารณาว่าเป็นอันตรายต่อไป