วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 เมื่อเวลา 12.40 น. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง แกนนำพรรค พท. กล่าวถึงกรณีที่นายดอน ปรมัตถ์วินัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ได้ทำหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคมที่ผ่านมา ขอให้นายกฯ ใช้อำนาจฝ่ายบริหาร ระงับข้อพิพาทระหว่างไทยกับฟิลิปปินส์ กรณีสินค้าบุหรี่นำเข้าของ บริษัทฟิลลิป มอร์ริสโดยขอให้หยุดกระบวนการดำเนินคดีในศาลไทย ก่อนที่ศาลอาญาจะมีคำพิพากษาคดีดังกล่าวว่า นายดอนอาจจะไม่มีความรู้ด้านกฎหมายและยังขาดความเข้าใจ ขอฝากนายดอนให้คลายทึบว่าคดีนี้อัยการสั่งฟ้องไปแล้ว และอยู่ในกระบวนการพิจารณาของศาล

“หากนายกฯ จะใช้อำนาจฝ่ายบริหารยุติฟ้องร้องคดีดังกล่าว จะเป็นการก้าวก่ายกระบวนการยุติธรรม ซึ่งนายกฯ ไม่มีอำนาจในการระงับข้อพิพาทนี้ เพราะเป็นอำนาจของอัยการในการสั่งฟ้องคดี และขณะนี้ก็อยู่ในขั้นการพิจารณาของศาล อย่างไรก็ตาม หากนายกฯ ใช้อำนาจตามมาตรา 44 เร่งรัดเรื่องดังกล่าวนี้ เชื่อว่าจะเกิดหายนะต่อประเทศในเร็ววัน และตนเชื่อว่านายกฯ ไม่กล้าใช้มาตรา 44 เพราะจะติดคุกแน่นอน และตนเองจะอภิปรายเรื่องนี้นอกสภาอย่างต่อเนื่อง เพื่อทวงถามความยุติธรรมให้คนไทย และเปิดโปงผู้ที่รับผลประโยชน์จากเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม ต้องขอชื่นชมอัยการที่ยังหนักแน่นเดินหน้าฟ้องร้องในคดีดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศ” นายเฉลิม กล่าว

ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวอีกว่า สำหรับข้อพิพาทกรณีสินค้าบุหรี่นำเข้า เป็นคดีที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2549 หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ดำเนินคดีกับบริษัทฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย กรณีหลบเลี่ยงภาษีบุหรี่มากกว่า 68,000 ล้านบาท เมื่อปี ‪2546-2550 และต่อมาอัยการสูงสุดได้มีคำสั่งฟ้องเจ้าหน้าที่บริษัท ฟิลลิป มอร์ริส ประเทศไทย 12 ราย ในปี 2559 ขณะที่ฟิลลิป มอร์ริส มีความพยายามที่จะให้ไทยถอนฟ้องในคดีนี้ และไปสนับสนุนประเทศฟิลิปปินส์ให้ฟ้องบังคับคดีกับไทยต่อ WTO กล่าวหาว่าการดำเนินคดีอาญาของไทยขัดต่อหลัก WTO