กองทัพ-แนวร่วมปชช.ซูดานบรรลุข้อตกลง โรดแมปเปลี่ยนผ่านประเทศ ให้เวลา 3 ปี

วันที่ 15 พฤษภาคม 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า สถานการณ์การเมืองซูดานอยู่ระหว่างช่วงรอยต่อของการเปลี่ยนผ่านหลังการลงจากอำนาจของนายโอมาร์ อัล-บาเชียร์ ประธานาธิบดีซูดานที่ครองอำนาจมานานเมื่อเดือนก่อน ล่าสุดการเจรจาต่อรองว่าด้วยการเปลี่ยนผ่านประเทศไปสู่ประชาธิปไตยระหว่าง สภากองทัพเพื่อการเปลี่ยนผ่านประเทศของซูดาน หรือทีเอ็มซี ซึ่งเป็นฝ่ายกองทัพที่ก่อการรัฐประหารโค่นนายอัล-บาเชียร์ลง กับแนวร่วมปฏิญญาเพื่ออิสรภาพและการเปลี่ยนแปลง หรือดีเอฟซีเอฟ ซึ่งเป็นกลุ่มจากการรวมตัวขององค์กรภาคประชาชนหลายกลุ่มที่ออกมาประท้วงต่อต้านรัฐบาลอัล-บาเชียร์ ได้บรรลุข้อตกลงแล้ว หลังจากทั้งสองฝ่ายเห็นด้วยที่ประเทศจะต้องใช้เวลาเปลี่ยนผ่านอย่างน้อย 3 ปี โดยพล.ท. ยัสเซอร์ อัล-อัตต้า สมาชิกสภาทีเอ็มซีกล่าวระหว่างการหารือว่า ทั้งสองฝ่ายมีข้อตกลงดังกล่าวและการเจรจาขั้นสุดท้ายในการเปลี่ยนผ่านประเทศใกล้จะแล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง

พล.ท.อัล-อัตต้ากล่าวอีกว่า ไม่เพียงเท่านี้ สภานิติบัญญัติเพื่อการเปลี่ยนผ่านจะมีสมาชิกจากฝ่ายดีเอฟซีเอฟนั่งในสภาถึง 2 ใน 3 และกลุ่มการเมืองต่างๆซึ่งก่อนหน้านี้ไม่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรก็จะมาร่วมนั่งในสภานี้ด้วย

ด้านซาทีร์ อัล-ฮัจจ์ สมาชิกแนวร่วมดีเอฟซีเอฟ กล่าวว่า มุมมองของทั้งสองฝ่ายมีความใกล้กันมากและด้วยประสงค์ของพระผู้เป็นเจ้า เราจะใกล้บรรลุข้อตกลงในเร็วๆนี้

ก่อนหน้านี้ ฝ่ายทีเอ็มซีกล่าวว่า การเปลี่ยนผ่านอาจใช้เวลาเต็มที่ 2 ปี ส่วนฝ่ายดีเอฟซีเอฟต้องการเวลาอย่างน้อย 4 ปี

นอกจากนี้ แนวร่วมดีเอฟซีเอฟ ได้ออกมาประณามรัฐบาลทหารต่อเหตุความรุนแรงรอบใหม่ที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ท่ามกลางความพยายามการเจรจาอันยากลำบากอยู่ในเวลานี้ โดยกองกำลังสนับสนุนทหารเคลื่อนที่เร็วหรืออาร์เอสเอฟ ได้เข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วงจนมีผู้เสียชีวิต 4 รายและบาดเจ็บหลายสิบคน ทำให้ฝ่ายทีเอ็มซีออกมาตั้งกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ดังกล่าวโดยมีสมาชิกจากฝ่ายดีเอฟซีเอฟนั่งร่วมสอบสวนด้วย

ขณะที่ นายคาลิด โอมาร์ ยูเซฟ สมาชิกระดับสูงของฝ่ายดีเอฟซีเอฟกล่าวว่า แม้จะมีการอ้างว่าเป็นมือที่สามที่สร้างสถานการณ์ความรุนแรงและทำให้การเจรจาต้องสะดุด แต่มีพยานยืนยันว่า กองกำลังที่เข้ามาสลายผู้ชุมนุมใช้ยานเกราะของกองทัพและสวมเครื่องแบบของกองทัพ ดังนั้นสภากองทัพต้องออกมาชี้แจงกลุ่มดังกล่าวทันที