ชี้ ศก.โลกชะลอฉุดส่งออกไทย | ต.ค.นี้ชัตดาวน์ระบบ 2 จี | คาดค้าชายแดนปีนี้ 1.6 ล้านล้าน

แฟ้มข่าว

ชี้ ศก.โลกชะลอฉุดส่งออกไทย

นายอิทธิชัย ยศศรี รองผู้อำนวยการ สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยว่า ดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (เอ็มพีไอ) เดือนมีนาคม 2562 อยู่ที่ 115.68 สูงสุดในรอบ 1 ปีนับจากเดือนเมษายน 2561 อยู่ที่ 93.99 แต่หดตัว 2.54% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนมีนาคมอยู่ที่ 74.38 ลดลงจาก 77.08 เทียบปีก่อน ผลจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลให้การค้าและกำลังซื้อทั่วโลกชะลอตามด้วย โดยพบว่าการส่งออก 60 ประเทศ ใน 94 ประเทศทั่วโลกมีตัวเลขส่งออกติดลบต่อเนื่อง รวมถึงการส่งออกของไทยที่หดตัว 6.1% โดยคาดการณ์เอ็มพีไอทั้งปี 2562 ขยายตัว 2-3% และจีดีพีอุตสาหกรรมขยายตัว 2-3% แม้ภาวะเศรษฐกิจโลกจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรม ทำให้เอ็มพีไอไตรมาส 1/2562 หดตัวลง 1.13% แต่ไม่ถือว่าเหนือความคาดหมายและใกล้เคียงกับที่คาดการณ์ไว้แล้วว่าจะหดตัว 0.6% โดย สศอ.ยังมั่นใจว่าพื้นฐานเศรษฐกิจไทยยังแข็งแกร่ง เพราะตัวเลขอัตราการว่างงานต่ำอยู่ที่ 0.9% สะท้อนว่าคนยังมีงานทำและมีรายได้ในการจับจ่าย ขณะที่อัตราเงินเฟ้อก็ยังไม่สูง อีกทั้งไทยยังได้อานิสงส์บวกจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ

คาดค้าชายแดนปีนี้ 1.6 ล้านล้าน

นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยไตรมาสแรกปี 2562 มีมูลค่ารวม 342,631.59 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.86% แยกเป็นการส่งออก 192,295.13 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.49% การนำเข้า 150,336.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.66% เกินดุลการค้า 41,958.66 ล้านบาท เมื่อดูการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศเพื่อนบ้าน มีมูลค่า 279,538.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.18% โดยมีการส่งออก 159,887.11 ล้านบาท ลดลง 1.95% นำเข้า 119,650.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.17% เกินดุลการค้า 40,236.20 ล้านบาท ขณะที่การค้าผ่านแดนกับ 3 ประเทศ มูลค่า 63,093.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.03% เป็นการส่งออก 32,408.02 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.57% นำเข้า 30,685.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.61% เกินดุลการค้า 1,722.47 ล้านบาท โดยพบว่ามาเลเซียเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของไทย มูลค่า 139,631.53 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.39% รองลงมาคือเมียนมา มูลค่า 49,647.25 ล้านบาท ลาว มูลค่า 48,219.51 ล้านบาท และกัมพูชา มูลค่า 42,039.73 ล้านบาท โดยตั้งเป้าการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 2562 ไว้ที่ 1.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%

กฟผ.เร่งดูดซับปาล์มล้นสต๊อก

นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า การที่รัฐบาลมีนโยบายให้ กฟผ.เพิ่มปริมาณดูดซับปริมาณน้ำมันปาล์มดิบ (ซีพีโอ) อีก 1 แสนตัน เพิ่มจาก 1.6 แสนตัน ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างทำแผนบริหารจัดการเสนอกลับไปให้กระทรวงพลังงานพิจารณา คาดว่าจะนำไปใช้ดำเนินการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าบางปะกง เนื่องจากเป็นโรงไฟฟ้าที่มีต้นทุนการผลิตถูกที่สุด คาดจะใช้แนวทางเดิมที่รับซื้อน้ำมันปาล์มดิบล็อตใหญ่คราวเดียวเพื่อกระตุกราคาน้ำมันปาล์มดิบในตลาดให้สูงขึ้น โดยยืนยันไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าที่เรียกเก็บกับประชาชน โดย กฟผ.ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) กับสถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ สทน. เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีพลาสมาและฟิวชั่นเป็นแหล่งพลังงานสะอาดในอนาคต รวมถึงร่วมกันออกแบบและพัฒนาระบบประกอบของเครื่องโทคาแมคหรืออุปกรณ์กักเก็บพลาสมาด้วยสนามแม่เหล็กและใช้ในการศึกษาวิจัยเรื่องเทคโนโลยีฟิวชั่น ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันด้านพลังงานของประเทศที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยคาดว่าผลการศึกษาเทคโนโลยีและฟิวชั่นจะแล้วเสร็จปี 2568 ซึ่งเป็นโครงการนำร่องการพัฒนาไปสู่โรงไฟฟ้าระบบใหม่ที่ชื่อว่านิวเคลียร์ฟิวชั่นในอีก 40-50 ปีข้างหน้า โดยใช้วัตถุดิบจากน้ำทะเลและธิเทียมจากผิวดิน กำลังการผลิตถึง 3,000-5,000 เมกะวัตต์ ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากไม่มีสารกัมมันตรังสี และไม่สร้างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

สมอ.เจอใบขอนำเข้าสุขภัณฑ์เถื่อน

นายวันชัย พนมชัย เลขาธิการสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เปิดเผยถึงการตรวจจับสินค้าไม่ได้มาตรฐานว่า สมอ.ได้นำทีมลงพื้นที่ตรวจยึดอายัดกระเบื้องเซรามิกและเครื่องสุขภัณฑ์ไม่ได้มาตรฐาน ณ ศูนย์กระจายสินค้าของห้างโมเดิร์นเทรดแห่งหนึ่งใน จ.พระนครศรีอยุธยา มูลค่า 340.8 ล้านบาท โดยการตรวจจับดังกล่าวเป็นการขยายผลการตรวจติดตามของเจ้าหน้าที่ สมอ.ที่ได้ตรวจพบว่าสาขาที่จำหน่ายสินค้าของห้างโมเดิร์นเทรดแห่งนี้จำหน่ายสินค้าโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จึงกังวลว่าจะเกิดผลกระทบกับความปลอดภัยของประชาชน โดยพบว่ามีการปลอมใบอนุญาตนำเข้าผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิกและเครื่องสุขภัณฑ์เซรามิก ประเภทโถส้วมนั่งราบ จึงยึดอายัดผลิตภัณฑ์กระเบื้องเซรามิกจำนวนรวม 1,735,507 ชิ้น มูลค่ากว่า 339 ล้านบาท และโถส้วมนั่งราบ รวม 370 ชิ้น มูลค่า 1.8 ล้านบาท รวม 340.8 ล้านบาท นอกจากนี้ได้เรียกคืนสินค้าจากสาขาจากห้างโมเดิร์นเทรด 4 จังหวัด ประกอบด้วย สมุทรปราการ ตราด จันทบุรี และพระนครศรีอยุธยา ถือเป็นการปลอมแปลงเอกสารราชการ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 5 ปี และปรับตั้งแต่ 1,000-10,000 บาท

ต.ค.นี้ชัตดาวน์ระบบ 2 จี

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.เตรียมประชาสัมพันธ์การปิดให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ระบบ 2G ในวันที่ 31 ตุลาคม 2562 เวลา 23.59 น. โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ (โอเปอเรเตอร์) ได้ส่งแผนการยุติการบริการ 2G มายัง กสทช.แล้ว ซึ่งสำนักงาน กสทช.จะกำกับให้ทุกรายดำเนินการโอนย้ายลูกค้าออกจากระบบ 2G ให้ทันตามกำหนด จากข้อมูลผู้ใช้งานระบบ 2G ณ เดือนมกราคม 2562 ตามข้อมูลของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 รายที่ได้แจ้งมายังสำนักงาน กสทช. พบว่ามียอดรวม 3,948,597 เลขหมาย แบ่งเป็น เอไอเอส 2,013,979 เลขหมาย ทรูมูฟ เอช 854,656 เลขหมาย และดีแทค จำนวน 1,079,962 เลขหมาย ซึ่งการใช้งานส่วนใหญ่เป็นการใช้กับโทรศัพท์มือถือ ส่วนอีกประมาณ 100,000 เลขหมาย ใช้ในองค์กรสำหรับส่งสัญญาณในเครื่องรูดบัตรเครดิต, ระบบติดตามรถยนต์ และอุปกรณ์อินเตอร์เน็ต ออฟ ธิงส์ (ไอโอที)

โดย กสทช.จะดำเนินการแบบคู่ขนานไปพร้อมกับการแจ้งลูกค้าของค่ายมือถือ เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด