‘พิชาย’ กระตุก บิ๊กตู่ฝันหวาน พรรคจิ๋ว แถลงหนุน แต่ละครยังไม่จบ อะไรก็เกิดขึ้นได้

เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม รศ.ดร.พิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) โพสต์ข้อความแสดงความเห็นกรณีพรรคการเมืองขนาดเล็ก 11 พรรค แถลงร่วมสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกฯต่อ โดยระบุว่า

พรรคเล็กสนับสนุนประยุทธ์ แต่ละครยังไม่จบ บรรดาหัวหน้าพรรคเล็กทั้งหลายที่ได้เป็น ส.ส. จากวิธีคำนวณอันพิสดารซับซ้อนของ กกต. ส่วนใหญ่เป็นนักการเมืองเก่า บางคนเคยสนับสนุนกับทักษิณ ชินวัตร ขณะที่บางคนเคยต่อต้านทักษิณ แต่คราวนี้ต่างลืมเรื่องราวหนหลัง กลับร่วมมือกันสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี โดยพร้อมหน้าพร้อมตา

ละครฉากนี้ อาจทำให้บางคนประหลาดใจไม่น้อย เพราะคาดไม่ถึงว่า คนที่เคยมีจุดยืนการเมืองต่างกัน จะมาร่วมมือกันอย่างกลมเกลียวได้อย่างนี้ คงมีอะไรบางอย่างเป็นกาวเชื่อมโยงความแตกต่างเหล่านั้นเอาไว้ชั่วคราว หรืออาจมีข้อเสนอบางอย่างที่พรรคเหล่านั้นไม่อาจปฏิเสธได้เกิดขึ้นก็เป็นได้

แต่จะว่าไปแล้ว อันที่จริงการเปลี่ยนจุดยืนหรือเปลี่ยนข้าง ย้ายฝ่าย เป็นเรื่องที่นักการเมืองไทยทำกันประจำ เหตุผลที่คนเหล่านั้นบอกต่อสาธารณะคือ การกระทำของพวกเขาเป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ
หากไม่รวมคนพูด คนที่เชื่อเหตุผลนี้ก็คงมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะผู้ที่อยากให้พลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรี

ผู้สนับสนุนพลเอกประยุทธ์คงยินดีกันทั่วหน้า เพราะทันทีที่บรรดาพรรคเหล่านี้ประกาศสนับสนุนก็ทำให้จำนวน ส.ส. ที่สนับสนุนพลเอกประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีมีอยู่แน่ๆ แล้ว ๑๓๑ เสียง ซึ่งเกินคะแนนขั้นต่ำหรือ ๑๒๖ เสียง และหากรวมกับเสียง ส.ว. ที่ประเมินกันว่าจะสนับสนุนพลเอกประยุทธ์ทั้ง ๒๕๐ เสียง ก็เท่ากับว่าพลเอกประยุทธ์ จะมีเสียงสนับสนุนในรัฐสภาเกิน ๓๗๖ เสียง

อย่างนี้ก็คงฝันหวานกันไปตามๆ กัน ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีดูเหมือนจะอยู่ในอวยแล้ว วันนี้เราจึงเห็นพลเอกประยุทธ์มีอารมณ์ดีเป็นพิเศษ และเห็นนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ เข้าพบที่ทำเนียบรัฐบาล คาดว่าน่าจะหารือกันเรื่องการจัดตั้งรัฐบาลใหม่

แต่ตราบใดที่เหตุการณ์ยังไม่เกิดขึ้น สิ่งที่ดูเหมือนว่ามีความแน่นอน ก็ยังมีโอกาสเกิดการพลิกผันได้เสมอ ยังมีเวลาอีกหลายวันกว่าจะถึงวันเลือกนายกฯ อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้

ความพลิกผันที่สำคัญคือ หากนายอนุทิน ชาญวีรกูล แห่งพรรคภูมิใจไทยและ/หรือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ แห่งพรรคประชาธิปัตย์ ยอมรับข้อเสนอที่แสนจะเย้ายวนใจของพรรคอนาคตใหม่ พรรคเพื่อไทยและพันธมิตร ซึ่งเสนอการสนับสนุนให้เป็นนายกรัฐมนตรีและ/หรือประธานสภาผู้แทนราษฎรกันเลย และไม่ขอต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ ทั้งสิ้น โดยยอมให้พรรคภูมิใจไทยและประชาธิปัตย์เลือกกระทรวงกันก่อนเลย ความเข้มข้นของการช่วงชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีและจัดตั้งรัฐบาลก็จะทวีมากขึ้น

ข้อเสนอแบบนี้ชวนให้เคลิบเคลิ้มได้ไม่น้อย แกนนำของทั้งสองพรรคคงคิดหนัก และทำให้ละครบทนี้ยังคงดำเนินต่อไป เรื่องมันยังไม่จบครับ