ปชป.ออกโรงค้านสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ กกต. ชี้ขัดรธน.-กม.เลือกตั้ง เตรียมหาช่องฟ้องร้องปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

ปชป.ออกโรงค้านสูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์ กกต. แจกเก้าอี้ 11 พรรคเล็ก ยันมีแค่ 14 พรรคได้บัญชีรายชื่อ ชี้ ขัดรธน.-กฎหมายเลือกตั้งส.ส. เตรียมใช้ช่องกฎหมาย ฟ้องร้องกกต.ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ

เมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีตผู้สมัคร ส.ส.สมุทรสงคราม พรรคประชาธิปัตย์ และอดีต กกต. แถลงข่าวคัดค้านการใช้สูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อของคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ที่ใช้หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) ที่จัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อให้พรรคการเมืองขนาดเล็กที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวน ส.ส.พึงมี ได้รับการจัดสรร ส.ส.บัญชีรายชื่อด้วย เพราะจะขัดกับรัฐธรรมนูญมาตรา 91(4) และพระราชบัญญัติ(พ.ร.ป.)ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 128(5) ที่ระบุว่า ให้นำจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อทั้งหมดไปจัดสรรให้แก่พรรคการเมืองที่มีจำนวนส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งต่ำกว่าจำนวนส.ส.ที่พรรคการเมืองนั้นจะพึงมีได้ตามอัตราส่วน แต่ต้องไม่มีผลให้พรรคการเมืองใดดังกล่าว มี ส.ส.เกินกว่าจำนวนที่พึงจะมีได้ โดยหากยึดหลักตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนด พรรคเล็กอันดับที่ 17-21 รวม 11 พรรค ที่มีคะแนนตั้งแต่ 33,754-68,973 คะแนน ต่ำกว่าคะแนนเฉลี่ยที่พึงจะมี ส.ส.หนึ่งคนคือ 71,168.5141 คะแนน จะไม่ได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ

นายสมชัย กล่าวต่อว่า ในการแถลงข่าวครั้งนี้นายสมชัย ได้ใช้เอกสารข่าวของสำนักงาน กกต. ในส่วนหลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อจำนวน 14 หน้า มาเป็นหลักในการคำนวณ ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ โดยตั้งข้อสังเกตว่า การคำนวณของ กกต.นั้นถูกต้องตั้งแต่หน้าที่ 1-7 แต่ในหน้าที่ 8 ขาดผลลัพธ์ตารางการคำนวณที่ต้องปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ โดยการคำนวณที่ถูกต้องจะมี 16 พรรคการเมืองที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ และจะมีเพียง 14 พรรคการเมืองที่ได้รับการจัดสรร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากพรรคเพื่อไทยได้ ส.ส.เขตเกินกว่าจำนวน ส.ส.พึงมี และพรรคประชาชาติ ได้ ส.ส.เขตเท่ากับจำนวน ส.ส.พึงมี จึงไม่มีสิทธิได้ ส.ส.บัญชีรายชื่ออีก ทั้งนี้ผลที่เกิดขึ้นจากการคำนวณของตนที่ปฏิบัติตามกฎหมายทุกขั้นตอนแตกต่างจาก กกต. ซึ่งพรรคที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ อนาคตใหม่ เพราะหายไป 4 คน พลังประชารัฐหายไป 2 คน ประชาธิปัตย์หายไป 2 คน ภูมิใจไทยหายไป 1 คน เสรีรวมใจไทย และชาติไทยพัฒนาหายไปพรรคละ 1 คน

“กกต.คำนวณตามมาตรา 128 ผิด เพราะหายไปหนึ่งขั้นตอน จะโดยตั้งใจหรือไม่ ไม่รู้ เพราะข้ามขั้นตอนในมาตรา 128(5) ของพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. คนที่มีส่วนได้เสียก็ต้องไปคิดว่าจะใช้สิทธิดำเนินการอย่างไรหรือไม่ ในเอกสาร กกต.มี 14 หน้าทำถูกแค่ 7 หน้า ได้คะแนนแค่ 50 เปอร์เซ็นต์ ในการทำการบ้านข้อนี้ ทั้งที่มีคนแนะนำแล้วยังทำผิดสมควรได้คะแนนต่ำกว่า 50 เปอร์เซ็นต์”นายสมชัยกล่าว

ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง รักษาการกรรมการบริหารพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่เห็นด้วยกับการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อตามแนวทางของ กกต.เพราะเป็นการคำนวณที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและ พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. เนื่องจากพรรคที่ได้คะแนนไม่ถึงจำนวนส.ส.พึงมี ไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรส.ส.บัญชีรายชื่อ และจากการคิดคำนวณของกกต.ในครั้งนี้ คะแนนไม่ได้ตกน้ำ แต่ตกทะเลเป็นล้านคะแนน นี่คือสิ่งที่รับฟังไม่ได้โดยสิ้นเชิง ในส่วนของประชาธิปัตย์สูญเสียกว่าสองแสนคะแนน และพรรคการเมืองอื่นอีก ซึ่งรวมเป็นหลักล้านคะแนน ตนไม่ทราบว่าการคำนวณแบบนี้ประโยชน์จะเกิดขึ้นกับใครหรือพรรคใด แต่ที่แน่ๆ คือประชาชนเสียงคะแนนของเขาทันที ผิดเจตนารมของกฏหมาย

นายราเมศ กล่าวต่อว่า อย่างไรก็ตาม กกต.เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเมื่อมีการปฏิบัติหน้าที่มิชอบ บุคคลที่ได้รับผลกระทบย่อมมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ซึ่งในส่วนของพรรคผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 20-22 คือ ผู้เสียหายโดยตรง เราจึงต้องใช้กระบวนการต่างๆตามรัฐธรรมนูญและกฏหมาย เพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้ถึงที่สุด ทั้งนี้ จะดำเนินการฟ้องดำเนินคดีกับ กกต. ทั้งในพรรคและในนามส่วนบุคคล หากมีความคืบหน้าจะแถลงต่อไป

มติชนออนไลน์