พรรคประชาชาติร่วมงานเลี้ยงละศีลอดของรัฐบาลกัมพูชา พบสมเด็จฯฮุน เซน สานสัมพันธไมตรี

พนมเปญ 7 พ.ค. นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ พร้อมด้วยทีมบริหารพรรค และ ส.ส.จังหวัดชายแดนภาคใต้ 6 คน ของพรรคประชาชาติ เดินทางถึงกรุงพนมเปญแล้วตามคำเชิญร่วมงานละศีลอดของสมเด็จฯฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ทันทีที่เดินทางถึงสนามบินกรุงพนมเปญ H.E.Oknha Datuk Dr.Othsman Hassan ผู้ช่วยนายกรัฐมนตรีด้านกิจการศาสนาอิสลาม ได้ให้การต้อนรับ และพาคณะเยี่ยมชมสำนักนายกรัฐมนตรีแห่งใหม่ ซึ่งมีท่านแกรนด์มุฟตี หรือผู้นำสูงสุดทางศาสนาอิสลามกัมพูชา และตัวแทนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ร่วมให้การต้อนรับด้วย จากนั้นได้ไปเยี่ยมชมมัสยิดอัลเซอร์กัล ศูนย์กลางอิสลามกัมพูชา ซึ่งท่านวันมูหะมัดนอร์ มะทา เป็นผู้สานความสัมพันธ์ระหว่างโลกมุสลิมกับรัฐบาลกัมพูชาเมื่อครั้งที่เคยดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 ทำให้รัฐบาลคูเวตมอบทุนสร้างมัสยิดขนาดใหญ่ใจกลางกรุงพนมเปญแห่งนี้ไว้

จากนั้นเดินทางไปร่วมงานเลี้ยงละศีลอดที่ศูนย์ประชุมไดมอนไอซ์แลนด์เซ็นเตอร์ ซึ่งสมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเป็นเจ้าภาพในงาน โดยมีผู้นำองค์กรมุสลิมจากหลายชาติในอาเซียน คณะทูตจากองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) คณะทูตในกัมพูชา ผู้นำศาสนาอิสลามในกัมพูชา ตลอดจนประชาชน นิสิตนักศึกษา ร่วมงานด้วยจำนวนกว่า 5,000 คน ก่อนการละศีลอด นายกรัฐมนตรีกัมพูชาได้กล่าวต้อนรับแขกผู้มีเกียรติที่มาร่วมงาน ขอบคุณพี่น้องมุสลิมกัมพูชาที่ได้สนับสนุนรัฐบาลกัมพูชาเป็นอย่างดี และได้ยืนยันว่ารัฐบาลกัมพูชาให้ความสำคัญกับประชาชนมุสลิมในกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลจะพยายามอำนายความสะดวกในการปฏิบัติศาสนกิจมากขึ้นโดยจะสร้างห้องละหมาดในโรงพยาบาลของรัฐทั่วประเทศ และให้สิทธินักศึกษาได้แต่งกายตามหลักศาสนาในสถานศึกษาของรัฐต่อไป

จากนั้นผู้แทนองค์การความร่วมมืออิสลาม (OIC) ได้กล่าวขอบคุณในนามของมุสลิมทั่วโลกที่ได้รับเกียรติจากประเทศกัมพูชา ก่อนจะมีการอ่านดุอาอ์ และเริ่มละศีลอดอย่างพร้อมเพรียงกัน

นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวพรรคประชาชาติ กล่าวว่า การมาร่วมงานครั้งนี้ทำให้ได้เห็นว่ารัฐบาลกัมพูชาได้ให้ความสำคัญกับกิจการของทุกศาสนา แม้ว่าจะมีศาสนาพุทธเป็นศาสนาหลักของประเทศ แต่ได้ให้เกียรติและให้ความสำคัญกับกิจการของทุกศาสนา เช่นศาสนาอิสลาม ได้มีการพูดคุยประเด็นสำคัญกับนายกรัฐมนตรี และรองนายกรัฐมนตรีทั้ง 4 ท่าน โดยเฉพาะ 2 ท่านมีความสนิทคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี คือรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงกลาโหม และรองนายกรัฐมนตรีที่รับผิดชอบกระทรวงมหาดไทย ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันท่านบอกว่าในช่วงระยะนี้ ประเทศไทยและกัมพูชามีความสัมพันธ์ที่ดี ก็อยากจะสนับสนุนให้มีความสัมพันธ์ที่ดียิ่งขึ้นไป โดยได้ขอบคุณประเทศไทยที่ให้ความช่วยเหลือแรงงานกัมพูชาที่ทำงานในประเทศไทย ซึ่งขณะนี้ประเทศกัมพูชามีจีดีพีที่ดี ได้รับความสนใจจากต่างประเทศมาร่วมลงทุน จึงอยากให้คนไทยเข้ามาร่วมลงทุนในประเทศกัมพูชาด้วย