สำนักข่าวเอพี รายงานว่า เมื่อวานนี้ (30 เมษายน 2562) นายมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอและผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ของโลก กล่าวนำเสนอแนวทางในการประชุมประจำปี ผู้พัฒนาเฟซบุ๊ก F8 ที่เมืองซานโอเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ว่า การรักษาความเป็นส่วนตัว คือเป้าหมายสำคัญของเฟซบุ๊ก

แนวทางดังกล่าวคนมองว่า ซักเคอร์เบิร์กจัดมาแก้ไขความผิดพลาดและข้อครหาใหญ่ของเฟซบุ๊ก ที่ถูกล้วงความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ตลอดปีที่แล้ว  จนถูกวิจารณ์หนักหนาขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นอาจถูกคณะกรรมาธิการการค้าแห่งชาติปรับเป็นเงินถึง 3,000 ล้านดอลลาร์ หรือราว 93,000 ล้านบาท ฐานละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัวของผู้อื่น

“ดูนะครับ ผมรู้ว่ามีคนจำนวนมากไม่มั่นใจว่า เราเอาจริงกับเรื่องนี้มากแค่ไหน” ซักเคอร์เบิร์ก กล่าวตรงๆ จนมีเสียงฮาจากผู้เข้าร่วมประชุมตามมา ก่อนพูดต่อว่า “เราก็รู้ว่าไม่ได้มีชื่อเสียงเรื่องปกป้องความเป็นส่วนตัวมากนัก แต่เราสัญญาว่าจะทำเรื่องนี้ให้ดีและเริ่มต้นบทใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์ของเรา”

งานเดียวกันนี้ ซักเคอร์เบิร์กยังแสดงโฉมหน้าแอพพลิเคชันและเฟซบุ๊ก ในรูปแบบปรับดีไซน์ใหม่ เพื่อให้ผู้คนในโลกออนไลน์ ติดต่อสัมพันธ์กันในกลุ่มเล็กๆ ที่เป็นเพื่อนกันได้ง่ายขึ้น เริ่มให้ใช้ก่อนสำหรับผู้ใช้ที่อยู่ในสหรัฐอเมริกา ส่วนเวอร์ชั่นเดสก์ท็อปจะตามมาในปีนี้

การออกแบบวางให้กลุ่มส่วนตัวอยู่ตรงกลางของเพจ ขณะที่มีผู้ใช้มากกว่า 400 ล้านคนเป็นกลุ่มที่เรียกว่า “มีความหมาย” และดึงคนที่มีแนวคิดคล้ายๆ กันเป็นเพื่อนกันเชื่อมโยงกัน ส่วนกลุ่มที่มีปัญหาชอบแชร์หัวข้อและเรื่องราวสุดโต่ง จะถูกเฟซบุ๊กกำจัดเนื้อหาอันเป็นอันตรายออกไป เช่นเดียวกับกลุ่มที่ชอบปล่อยข้อมูลที่สร้างความเข้าใจผิด จะถูกล้อมกรอบ

ส่วนการใช้ Messenger จะเป็นระบบการเข้ารหัสตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง หรือ End-to-end encryption ซึ่งเป็นระบบปกป้องข้อมูลแช็ตส่วนตัวขั้นเทพ ไม่ให้รั่วไหลถึงถูกเจาะ  ผู้ใช้ส่งข้อความทางเฟซบุ๊ก อินสตาแกรม และวอตส์แอพพ์ ได้ทั้งหมด  โดยในส่วนวอตส์แอพพ์ จะเป็นแอพฯที่มีความปลอดภัยมากที่สุด ต้องเป็นคนที่มีที่อยู่ติดต่อกัน หรือ contact books เท่านั้นที่จะเห็นสถานะกันได้

ด้านอินสตาแกรม จะเปลี่ยนแปลงด้วยฟีเจอร์ใหม่ ซ่อนตัวกดไลก์จากภาพได้ ยกเว้นเจ้าของบัญชีจะยังคงเห็นว่าภาพนั้นๆ มียอดไลก์เท่าใด แต่จำนวนจะไม่แสดงให้เห็นตรงท้ายโพสต์แต่ละโพสต์อีก