เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 26 เมษายน ที่โรงแรมสองพันบุรี จ.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) จัดประชุมใหญ่สามัญประจำปีครั้งที่1 / 2562 ที่มี น.ส.กัญจนา ศิลปอาชา หัวหน้าชทพ.เป็นประธานเพื่อพิจารณาแต่งตั้งผู้สอบบัญชี ประจำปี2562, พิจารณารับรอง และให้ความเห็นชอบงบการเงิน และพิจารณารายงานการดำเนินกิจกรรมขอบพรรคในรอบปีย้อนหลังตั้งแต่ปี2557-2561 โดยมีแกนนำ ว่าที่ส.ส. และสมาชิกชทพ.เข้าร่วมอย่างพร้อมเพียง อาทิ พล.อ.สนธิ บุญยรัตนกลิน นายธีระ วงศ์สมุทร ที่ปรึกษาพรรค นายประภัตร โพธสุธน เลขาธิการพรรค นายวราวุธ ศิลปอาชา ประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ นายนิกร จำนง ผอ.พรรค และ นายอนุรักษ์ จุรีมาศ รองหัวหน้าพรรค เป็นต้น

อ่านต่อ : แกนนำชทพ. บุก สุพรรณฯ สรุปบทเรียนเลือกตั้ง 24 มี.ค. ‘กัญจนา’ ปลุกใจ สู้ต่ออย่าท้อ

นายวราวุธ กล่าวว่า ยอมรับว่าชทพ.ได้รับเลือกตั้งน้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมาย โดยขณะนี้ยังไม่ทราบว่า จะได้ส.ส.เข้าสู่สภาจำนวน 10 หรือ11 ที่นั่ง เพราะคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) มีสูตรคำนวณเพื่อหาส.ส. บัญชีรายชื่อที่ซับซ้อน และมีวิธีคิดหลายแบบ แต่ไม่ว่าใช้แบบใดขอให้พรรคได้ส.ส.เข้าสภา11 ที่นั่งก็แล้วกันทั้งนี้ ตนมองว่ากกต.เป็นองค์กรที่น่าเห็นใจ เหมือนเป็นกระโถนท้องพระโรง เพราะต้องรับแรงกดดันจากทุกฝ่าย อีกทั้งต้องปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายบัญญัติ ซึ่งตีความการปฏิบัติได้หลายแบบดังนั้น ตนมองว่า อย่าไปกดดันการทำงานของกกต.

ช่วงหนึ่ง นายวราวุธ กล่าวต่อที่ประชุมตอนหนึ่งว่า การเลือกตั้งที่ผ่านมา ตนมองว่า มีกระแสเกิดขึ้นหลากหลายทั้งล้มช้างและกระแสคนรุ่นใหม่ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีความพยายามให้เกิดสงครามทางความคิดระหว่างคนรุ่นใหม่ และคนรุ่นเก่าหรือคนรุ่นใหญ่ ซึ่งตนมองว่า เป็นสิ่งที่คิดผิด เพราะการทำงานการเมืองต้องใช้การผสมผสานการทำงานระหว่างคนรุ่นใหม่และคนรุ่นใหญ่ ทั้งนี้คนรุ่นใหม่ต้องให้เกียรติเคารพและฟังความคิดเห็น รวมถึงฟังประสบการณ์จากคนรุ่นใหญ่ ขณะที่คนรุ่นใหญ่ต้องอดทนกับบุคลิกของคนรุ่นใหม่ที่ใจร้อนและคิดทำเร็ว

นายวราวุธ กล่าวว่า สำหรับเส้นทางการเมืองกับการเลือกตั้งครั้งต่อไป ตนเชื่อว่า จะเป็นการเลือกตั้งที่โกลาหลที่สุดในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เพราะไม่มีบทเฉพาะกาลและมาตรา 44 รวมถึงไม่ทราบว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไปกติกาหรือระเบียบเลือกตั้งจะปรับแก้ไขหรือไม่ ทั้งนี้ ความโกลาหลที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองว่า จะมาจากการกำหนดให้ทำระบบเลือกตั้งต้องทำไพรมารี่โหวตที่กำหนดให้ทำทั้ง 350 เขตเลือกตั้ง โดยปัจจุบันมีพรรคการเมืองประมาณ 90 พรรคหากจะส่งผู้สมัคร100 เขตต้องจัดการเลือกตั้งขั้นต้นหรือทำไพรมารีโหวตถึง 9,000 ครั้ง​

นายประภัตร กล่าวว่า ชทพ.ต้องเป็นปึกแผ่นมั่นคง วันนี้เราได้เห็นคนรุ่นใหม่ในพรรค ที่ผ่านมาตนให้กำลังใจนายวราวุธ เสมอว่า นายทำได้ จึงเชื่อเหลือเกินว่า ชทพ.จะก้าวไปอย่างมั่นคง นายวราวุธ คือ ความหวังของพวกเราอีก10 ปีข้างหน้า นายวราวุธจะก้าวขึ้นมาเป็นนักการเมืองแถวหน้า และอาจจะมีโอกาสเป็นนายกรัฐมนตรี เหมือนกับนายบรรหาร ศิลปอาชา จึงอยากฝากสมาชิกทุกคนว่า นายวราวุธจะไปคนเดียวไม่ได้ทุกคนต้องผลักดันแล้วไปด้วยกัน