อัยการนิวยอร์กเริ่มสืบสวน “เฟซบุ๊ก” ปมเก็บฐานข้อมูลอีเมล์ผู้ใช้งานโดยไม่ได้รับอนุญาต

วันที่ 26 เมษายน 2562 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เลทิเทีย เจมส์ อัยการกลางประจำนครนิวยอร์กกล่าวว่า กำลังเตรียมสอบสวนกรณีบริษัทเฟซบุ๊ก เจ้าของโซเชียลแพลตฟอร์มชื่อดัง ทำการเก็บข้อมูลอีเมล์ผู้ใช้งานกว่า 1.5 ล้านคนเข้าฐานข้อมูล โดยไม่ได้รับอนุญาต สืบเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว เฟซบุ๊กออกมาเปิดเผยว่า พวกเขาอาจทำการเก็บข้อมูลอีเมล์ผู้ใช้งานหน้าใหม่โดยไม่ได้เจตนามาตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2016 ซึ่งได้ทำการลบออกและไม่ได้แบ่งปันให้กับใคร

อัยการเจมส์กล่าวว่า เมื่อข้อมูลติดต่อระดับบุคคลถูกออกไปเก็บไว้ฐานข้อมูลซึ่งจำนวนนี้อาจมีมากถึงหลายร้อยล้านคน โดยอัยการระบุว่า การเปิดเผยดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าเฟซบุ๊กไม่ได้ใส่ใจกับบทบาทตัวเองอย่างจริงจังในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล แม้ว่าเฟซบุ๊กได้กล่าวว่าได้ทำการติดต่อกับอัยการกลางและตอบรับในการตอบคำถามกับเรื่องดังกล่าว

“ถึงเวลาที่เฟซบุ๊กต้องแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งที่พวกเขาจัดการกับข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค” อัยการกลางระบุ

ขณะที่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา เฟซบุ๊กได้กล่าวว่า ได้จัดสรรเงินจำนวน 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯที่ครอบคลุมในเรื่องข้อยุติกับคณะกรรมาธิการพาณิชย์ของสหรัฐฯต่อกรณีละเมิดสิทธิส่วนบุคคล โดยก่อนหน้านี้ คณะกรรมาธิการพาณิชย์ของสหรัฐฯสืบสวนกรณีการเปิดเผยอย่างไม่เหมาะสมของเฟซบุ๊กที่บกพร่องในการทำข้อมูลผู้ใช้งานถึง 87 ล้านคนรั่วไหลออกไปยังบริษัทเคมบริดจ์ แอนาไลติก้า บริษัทวิเคราะ์ข้อมูลและให้คำปรึกษาด้านการรณรงค์ทางการเมือง ซึ่งทีมสอบสวนข้อเท็จจริงได้มุ่งไปที่เรื่องการแบ่งปันข้อมูลและข้อพิพาทที่ละเมิดข้อตกลงในความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน ปี 2011

ทั้งนี้ หากมีข้อยุติ เฟซบุ๊กอาจต้องจัดสรรเงินไว้สูงถึง 5 พันล้านดอลลาร์ เท่ากับหักผลประกอบการมวลรวมของไตรมาสแรกอยู่ที่ 2.43 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือมากถึง 85%ของหุ้น

สำหรับส.ส.ในพรรคเดโมแครตกล่าวว่า เงินค่าปรับ 5 พันล้านดอลลาร์นี้ เป็นเพียงการตบข้อมือเตือนเฟซบุ๊กต่อความบกพร่องดังกล่าว