กสทช.ดีเดย์ 31 ต.ค. กดปุ่มปิดระบบ 2จี บีบค่ายมือถือเร่งย้ายลูกค้า

เว็บไซต์ประชาชาติธุรกิจออนไลน์รายงานว่า นายก่อกิจ ด่านชัยวิจิตร รองเลขาธิการ คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า สำนักงาน กสทช.เตรียมประชาสัมพันธ์การปิดระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 2G ในวันที่ 31 ต.ค. 2562 เวลา 23.59 น. ตามมติที่ประชุม กสทช. (22 ม.ค. 2532) โดยผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ส่งแผนการยุติการบริการ 2G มายัง กสทช.แล้ว ซึ่งสำนักงาน กสทช.จะกำกับให้ทุกรายดำเนินการโอนย้ายลูกค้าออกจากระบบ 2G ให้ทันตามกำหนด

“ต้องปิดระบบ 2G เพราะค่าบำรุงรักษาโครงข่ายสูงขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากเป็นเทคโนโลยีเก่า การคง 2G ไว้ทำให้ทุกค่ายต้องแบ่งคลื่นออกมาให้ใช้เฉพาะ ทำให้ใช้คลื่นไม่เต็มประสิทธิภาพ ไม่คุ้มค่า แทนที่จะนำคลื่นไปใช้กับ 3G, 4G ทั้งหมด”

เหลือลูกค้าเกือบ 4 ล้าน

สำหรับข้อมูลผู้ใช้งานระบบ 2G ณ เดือน ม.ค. 2562 ค่ายมือถือทั้ง 3 รายได้แจ้งมายังสำนักงาน กสทช.ว่า มียอดรวมอยู่ที่ 3,948,597 เลขหมาย แบ่งเป็น เอไอเอส 2,013,979 เลขหมาย, ทรูมูฟ เอช 854,656 เลขหมาย และดีแทค จำนวน 1,079,962 เลขหมาย การใช้งานส่วนใหญ่เป็นการใช้กับโทรศัพท์มือถือ และราว 1 แสนเลขหมาย ใช้ในองค์กรสำหรับเป็นซิมส่งสัญญาณในเครื่องรูดบัตรเครดิต, ระบบติดตามรถยนต์, อุปกรณ์อินเทอร์เน็ตออฟทิงส์ (IOT)

ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้สำนักงาน กสทช.พิจารณาวงเงินงบประมาณที่เหมาะสมสำหรับการประชาสัมพันธ์การปิดระบบ 2G ให้ประชาชนรับทราบ ตนมองว่าเป็นหน้าที่ กสทช. ที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนเพื่อให้ทราบว่าจะปิดระบบ 2G ในวันที่ 31 ต.ค.นี้ หากต้องการใช้งานต่อเนื่องให้ติดต่อค่ายมือถือของตนเพื่อเปลี่ยนซิม ย้ายระบบ

“กสทช.ต้องทำคู่ขนานไปกับการแจ้งลูกค้าของค่ายมือถือ เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด คาดว่างบฯเบื้องต้นอยู่ที่ 10-20 ล้านบาท จะมีการสรุปรายละเอียดเสนอให้บอร์ด กสทช.พิจารณา 7 พ.ค.นี้”

จากการรายงานของค่ายมือถือแต่ละราย เชื่อว่าจะปิดระบบ 2G ได้ตามกำหนดที่วางไว้ เนื่องจากเป็นการร่วมกันของทั้ง 3 ค่ายที่จะปิด 2G เพื่อนำคลื่นไปใช้ให้บริการ 3G และ 4G ได้ประโยชน์กว่า

หวั่นกระทบผู้บริโภค

ขณะที่ นายประวิทย์ ลี่สถาพรวงศา กรรมการ กสทช. ด้านคุ้มครองผู้บริโภคในกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า การกำหนดวันปิดระบบ 2G ต้องมีระยะเวลาเพียงพอในการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ของผู้ใช้งานระบบเดิม ซึ่งในต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกาประกาศล่วงหน้า 3-5 ปี แม้แต่สิงคโปร์ยังประกาศล่วงหน้า 3 ปี

ขณะที่ในไทยมีผู้ใช้มาก แต่มีเวลาแค่ 7 เดือน จึงอาจกระทบผู้บริโภควงกว้าง ทั้งการกำหนดวันปิดระบบ 2G ยังเปิดรับฟังความเห็นเฉพาะจากค่ายมือถือ ไม่ได้เปิดให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องให้ความเห็น ในแง่กระบวนการจึงอาจยังไม่ครบถ้วนตามมติ กสทช.

ดังนั้น เพื่อให้เกิดผลกระทบกับประชาชนน้อยที่สุด สำนักงาน กสทช.ควรประมวลข้อเสนอต่าง ๆ แล้วจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ และการคุ้มครองผู้ใช้บริการที่มีทิศทางและกรอบระยะเวลาเดียวกัน โดยเฉพาะการจัดให้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่าง ๆ และนำเสนอแพ็กเกจค่าบริการ รวมถึงอุปกรณ์ที่เหมาะสม พร้อมทั้งแจ้งสิทธิ์ “ย้ายค่ายเบอร์เดิม”

“ไม่ควรอนุญาตให้ค่ายมือถือทยอยปิดสถานีฐาน 2G ในพื้นที่ให้บริการก่อนกำหนดวันปิดระบบของ กสทช. เพราะอาจกระทบผู้ใช้ เนื่องจากมือถือเป็นบริการที่ไม่ได้ใช้แค่เฉพาะพื้นที่เท่านั้น การให้บริการต้องครอบคลุมพื้นที่เพียงพอเพื่อให้ลูกค้าใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

จี้ กสทช.กวดขันนำเข้า 2G

แหล่งข่าวจาก บมจ.แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส (เอไอเอส) เปิดเผยว่า เอไอเอสพยายามจูงใจให้ลูกค้าย้ายจาก 2G มาใช้ 3G/4G มาตลอด ตั้งแต่ก่อนสิ้นสุดสัมปทานเมื่อ ก.ย. 2558 แต่ยังมีลูกค้าเหลืออยู่ไม่น้อย ซึ่งก่อนปิดต้องเร่งประชาสัมพันธ์ รวมถึงส่ง SMS แจ้งลูกค้า และต้องประเมินอัตราการย้ายออกจากระบบเป็นระยะ หากยังมีลูกค้าคงเหลือมากอาจต้องเสนอให้บอร์ด กสทช.ขยายกำหนดวันปิดระบบ 2G

“กสทช.ต้องช่วยประชาสัมพันธ์ และยกเลิกการรับรองมาตรฐาน และให้นำเข้าอุปกรณ์ 2G ต้องมีการกวดขันจับกุมการนำเข้าอุปกรณ์ 2G โดยไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งผิดกฎหมาย รวมถึงแจ้งให้อีมาร์เก็ตเพลซ หรือร้านค้าออนไลน์ รับรู้ถึงการปิดระบบ และไม่อนุญาตให้นำเข้ามือถือ 2G ส่วนโปรโมชั่นจูงใจลูกค้าให้ย้ายต้องพิจารณาเป็นระยะให้เหมาะสม เพราะเคยแจกเครื่องใหม่แล้วแต่ไม่เวิร์ก”

แจกเครื่องดึงเลิกใช้ไม่เวิร์ก

แหล่งข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า ปัจจุบันต้องกันคลื่นจำนวน 5 MHz เพื่อให้บริการ 2G ถ้าปิดไปจะทำให้ลูกค้า 3G และ 4G ได้สปีดการใช้งานดีขึ้น จากนี้จะมีการทำแคมเปญจูงใจให้ลูกค้าย้ายออกจากระบบ 2G มากขึ้น แม้ 5 ปีที่ผ่านมาจะพยายามแจกเครื่องใหม่ที่รองรับ 3G และ 4G ให้ลูกค้ากลุ่มนี้มาตลอด แต่การตอบรับไม่เป็นไปตามที่คาด ฉะนั้น กระบวนการจากนี้ต้องประเมินผลตอบรับเป็นระยะเพื่อปรับแผนให้เหมาะสม ถ้าจะถึงวันปิดแล้วยังมีลูกค้าค้างจำนวนมาก อาจต้องขอขยายเวลาเพื่อไม่ให้กระทบลูกค้า แต่เชื่อว่าน่าจะย้ายทัน เพราะทรูมูฟ เอช มีลูกค้า 2G เหลือไม่มาก

ดีแทคจัดทีมลงพื้นที่

นางสาวทิพยรัตน์ แก้วศรีงาม รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการขาย และงานบริการ บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) เปิดเผยว่า ดีแทคยังมีลูกค้า 2G พอสมควร จึงเตรียมทีมงานลงพื้นที่เพื่อจูงใจให้ลูกค้าเปลี่ยนซิมการ์ดและเครื่อง ให้รองรับการใช้ 3G/4G ทั้งเปิดตัวแคมเปญ “เช็กเครื่องรับโชคที่ดีแทคช็อป” เชิญชวนให้ลูกค้านำเครื่อง และซิมมาตรวจรับสิทธิพิเศษ และลุ้นชิงโชครวมมูลค่ากว่า 12 ล้านบาท

“ลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์ 2G จะเปลี่ยนให้ฟรี รวมถึงมีข้อเสนอพิเศษให้หากอยากเปลี่ยนเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ การแข่งขันดึงลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมยังมีตลอด เพราะตลาดไม่ขยายตัวมาก หากต้องการเพิ่มลูกค้าก็ต้องไปดึงจากคู่แข่ง”

สำหรับแคมเปญย้ายค่ายเบอร์เดิมของดีแทค มีทั้งแบบพื้นฐาน คือ ลดค่าบริการให้ 50% 12 เดือน หรือรับสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่ฟรี หรือให้ส่วนลดค่าเครื่องราคาพิเศษ ผ่อนชำระ 0% สูงสุด 24 เดือน อีกทั้งถ้าย้ายมาเป็นลูกค้ารายเดือน (โพสต์เพด) จะได้ส่วนลดค่าเครื่อง 1,500 บาท

ซื้อไอโฟนเพิ่มส่วนลด

ส่วนแคมเปญย้ายค่ายเบอร์เดิมของ “เอไอเอส และทรูมูฟ เอช” จะให้ส่วนลดค่าบริการ 50% เป็นเวลา 12 เดือน และบริการเสริม อาทิ “เอไอเอส” ใช้ฟรี 1 รอบบิลในแพ็กเกจที่กำหนด และหากย้ายค่ายเบอร์เดิมพร้อมซื้อไอโฟนใหม่ในรุ่น และแพ็กเกจที่กำหนด จะได้ส่วนลดค่าเครื่องเพิ่ม 1,000-2,000 บาท

ส่วน “ทรูมูฟ เอช” นอกจากค่า โทร.และค่าอินเทอร์เน็ตฟรี 2,000 บาท ใช้งานได้ 30 วัน หลังย้ายค่ายสำเร็จ สำหรับลูกค้าเติมเงินยังมีโปรโมชั่นให้ส่วนลดค่าไอโฟนสำหรับลูกค้าโพสต์เพดที่สมัครแพ็กเกจที่กำหนด เช่น ไอโฟน XR ความจุ 64 GB, 128 GB และ 256 GB ได้ส่วนลดเพิ่มอีก 1,000 บาท เมื่อซื้อเครื่องพร้อมแพ็กเกจ 699 บาทขึ้นไป