นายปิยบุตร  แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงถึงกรณีที่กกต.มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) เป็นผู้มีลักษณะต้องห้ามผู้สมัครส.ส. ว่า เพิ่งได้คุยกับนายธนาธรเมื่อสักครู่ นายธนาธรยังกำลังใจดีอยู่ เพียงแต่เสียดายเวลาที่จะได้ดูงานศึกษามาปรับใช้กับสังคมไทย ตอนนี้กำลังเร่งเดินทางกลับมาประเทศไทยเพื่อชี้แจงข้อกล่าวหา โดยจะถึงประเทศไทยในวันที่ 25 เมษายนนี้ ยืนยันว่าเรามั่นใจว่า เป็นผู้บริสุทธิ์ทั้งทางข้อกฎหมายและข้อเท็จจริง หลังเห็นมติกกต.แล้วรู้สึกประหลาดใจกับมติแจ้งข้อกล่าวหา เพราะเรามั่นใจเรื่องข้อกฎหมายและข้อเท็จจริงมาก การโอนหุ้นมีผลสมบูรณ์ทางกฎหมายเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวันที่ 8 มกราคมแล้ว คนที่หวังดีต่อชาติบ้านเมือง ต่างก็รู้ว่า ห้ามผู้สมัครส.ส.ถือหุ้นสื่อ อีกทั้งยังรู้สึกน่าเสียดายที่คณะกรรมการสืบสวนไต่สวนของกกต.ไม่ยอมให้ทีมงานอนาคตใหม่เข้าไปชี้แจง เพื่อเป็นรับเอกสารไว้เมื่อวันที่ 22 เมษายน ซึ่งก็ไม่ทราบว่าถูกบรรจุอยู่ในสำนวนหรือไม่

“ยืนยันว่า ช่วงเวลานี้ ไม่ใช่ช่วงเวลาการตรวจสอบคุณสมบัติ ของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะทำได้ตั้งแต่วันรับสมัครจนถึงวันที่ 23 มีนาคม ก่อนวันเลือกตั้ง ตอนนี้การเลือกตั้งผ่านไปแล้วแต่ยังไม่รับรองผลการเลือกตั้ง การตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามทำได้เพียงส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งเท่านั้น ถ้าจะตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของผู้สมัครส.ส.บัญชีรายชื่อ จะทำได้ก็ต่อเมื่อมีการรับรองส.ส.แล้ว ซึ่งกกต.ต้องส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อีกต้องประกาศรับรองส.ส.แล้ว ตอนนี้จึงไม่มีช่องทางไหนเหลือแล้ว ที่กกต.จะให้ใบส้มนายธนาธรได้ เพราะการให้ใบส้มเป็นเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตเลือกตั้ง ไม่เกี่ยวกับคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้าม” นายปิยบุตรกล่าว

เมื่อถามว่า มองการแจ้งข้อกล่าวหาดังกล่าวของกกต.อย่างไร นายปิยบุตร กล่าวว่า ถ้าอิสระสมชื่อจริงๆ โดยไม่ตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของอำนาจอะไรก็ตาม คงจะไม่นำเรื่องนี้มากีดกันตัดสิทธินายธนาธร จึงขอให้ทำหน้าที่อย่างอิสระอย่างแท้จริง เพราะเกียรติภูมิศักดิ์ศรีจะอยู่ตลอดไป ไม่ใช่แค่วันนี้ใครกดดันต้องทำตาม แต่ประวัติศาสตร์จะบันทึกไว้ ติดตัวไปจนตาย ส่วนจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้น ตอนนี้พรรคยังไม่ได้หนังสือแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด เห็นแค่เอกสารแผ่นเดียวสั้นๆ ถ้าจะแจกใบส้มก็ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกัน อยากให้ใช้กฎหมายให้ถูกต้องด้วย เห็นใจกกต.ที่ต้องตกในที่นั่งลำบาก ซึ่งตนให้กำลังใจกกต.บ่อยครั้ง เพราะต้องทำหน้าที่สำคัญในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

“ขอตั้งข้อสังเกตว่า ตั้งแต่เราเริ่มก่อตั้งพรรควันที่ 15 มีนาคม 61 ก็โดนข้อกล่าวหาอยู่พรรคเดียวเต็มไปหมด จึงสงสัยว่าต้องการอะไร การเมืองเก่าก็บอกไม่เอาแล้ว พอเราจะสร้างการเมืองแบบใหม่ ก็มาเจอเรื่องแบบนี้อีก ซึ่งขอยืนว่าไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับเรา อนาคตใหม่จะยังเดินหน้าทำกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง เรื่องเหล่านี้ไม่อาจเป็นอปุสรรคขัดขวางประเทศไทยเพื่อไปยังอนาคตแบบใหม่ได้ โดยวันที่ 24-25 เมษายนนี้ ตนจะไป จ.เชียงใหม่จัดกิจกรรม อนาคตใหม่เริ่มได้ทันที พร้อมทั้งบรรยาแก่นักศึกษา หาสมาชิก ขายของที่ระลึก ส่วนในวันที่ 27 เมษายน จะจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี และวันที่ 28เมษายน- วันที่ 1 พฤษภาคม จะจัดอบรมสัมมนาเตรียมพร้อมเข้าทำหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร เพื่อรื้อฟื้นเกียรติภูมิส.ส.กลับมา” นายปิยบุตรกล่าว