“ปิยบุตร” ตอก “นักร้อง”เข้าข่ายแจ้งความเท็จ ซัดนักการเมืองควรคิดสร้างสรรค์ อย่าจ้องจับผิดถือหุ้น

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่พรรคอนาคตใหม่ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณี ร.อ.ทรงกลด ชื่นชูผล หรือ ผู้กองปูเค็ม เข้ายื่นหนังสือถึงกกต. เพื่อขอให้ตรวจสอบคุณสมบัติ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ถือหุ้นบริษัทที่จะทะเบียนประกอบธุรกิจ ด้านสื่อสารมวลชน จำนวนกว่า 30 รายชื่อ ว่า ตามที่ตนได้แถลงข่าวชี้แจงไปแล้ว เรื่องลักษณะต้องห้ามของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นั้นจะดูแค่จากหนังสือบริคนห์สนธิไม่ได้ แต่ผู้นั้นต้องถือหุ้นกิจการที่ประกอบธุรกิจสื่อมวลชนจริงๆ ไม่ใช่ไปเปิดหนังสือบริคนห์สนธิ ที่เป็นแบบฟอร์มจากกระทรวงพาณิชย์ ที่เขียนวัตถุประสงค์ครอบจักรวาล หากจะนำเรื่องนี้มาระบุว่าใครถือหุ้นสื่อหรือไม่ คำถามคือ เรื่องนี้ใช้สมเจตนารมณ์ของกฎหมายหรือไม่ หากมีคนบังเอิญไปถือหุ้นในบริษัทที่หนังสือบริคนห์สนธิ ที่มีวงเล็บนึงระบุว่า ทำสื่อ แต่บริษัทนั้นประกอบกิจการอาหารสัตว์ แล้วมันเป็นการครอบงำสื่อตรงไหน และต้องเรียนว่าที่มีการร้องเรียนว่าที่ ส.ส. 30 กว่าคน จาก 6 พรรค ระวังให้ดี พรรคฝ่ายสืบทอดอำนาจของคสช. อย่าคิดว่าไม่มีเรื่องพวกนี้ ลองไปหาดูก็เจอ ตนเชื่อว่า ผู้สมัครแต่ละคน ก็มีบริษัทที่รู้อยู่แล้วว่าบริษัทนี้ไม่ได้ทำสื่อ แต่หนังสือบริคนห์สนธิเขียนวัตถุประสงค์ไว้ คนที่ไปร้องเรียนก็ต้องระวังด้วยว่า อาจเข้าข่ายแจ้งความเท็จ หรืออีกฝ่ายไปร้องกลับบ้าง มันจะไม่จบ

“ผมอยากเรียนว่า กฎหมายแต่ละมาตราออกมามีวัตถุประสงค์ของมัน ใช้ให้ถูกวัตถุประสงค์ อย่าใช้กฎหมายกลั่นแกล้งกัน หากจะใช้กฎหมายมากลั่นแกล้งกัน เรื่องคงไม่จบ การเมืองไทยเสียเวลากับเรื่องนี้มาสิบกว่าปีแล้ว มันควรเดินหน้าไปได้แล้ว สมองของมนุษย์และนักการเมืองที่ควรจะคิดเรื่องสร้างสรรค์ วันๆกลับต้องมาคิดแบบนี้ ผมเห็นบรรดานักร้องแต่ละคนที่ไปร้องเรียนกัน โอโห วันๆนี่ไม่ต้องคิดเรื่องสร้างสรรค์เลยนะ คิดอยู่อย่างเดียว ใครไปถือหุ้นอันไหน ชีวิตไม่ต้องคิดเรื่องอื่นสร้างสรรค์แล้ว การเมืองไทยจะเอาแต่แบบนี้หรือ” เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่กล่าว