คนสุพรรณฯ ร่วมเปิดอนุสาวรีย์รำลึก บรรหาร นายกฯ ณ อุทยานสัจจะและกตัญญู จ.สุพรรณบุรี

เมื่อวันที่ 23 เมษายน ที่อุทยานสัจจะและกตัญญู ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง สุพรรณบุรี จ.สุพรรณบุรี ครอบครัวศิลปอาชา นำโดย คุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา พร้อมด้วย น.ส.กัญจนา นายวราวุธ ศิลปอาชา บุตรสาวและบุตรชาย ร่วมพิธีเปิดอนุสาวรีย์และวางพวงดอกไม้รำลึกเกียรติคุณ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าได้มีพิธีสงฆ์เพื่อทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้นายบรรหาร จากนั้นมีการอ่านบทกวีและเปิดวิดีทัศน์รำลึกถึงเกียรติก่อนที่คุณหญิงแจ่มใส จะเป็นประธานกดปุ่มเปิดแพรคลุมป้ายเปิดอนุสาวรีย์บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 อย่างเป็นทางการ

ทั้งนี้ ตลอดพิธีได้มีแขกเหรื่อ ญาติ อดีตผู้ร่วมงาน ผู้ใต้บังคับบัญชา พ่อค้า นักธุรกิจ ประชาชนชาวสุพรรณบุรี เข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ นายขรรค์ชัย บุนปาน ประธานกรรมการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) อดีตส.ส. รวมไปถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และนายสรอรรถ กลิ่นประทุม ประธานที่ปรึกษาภท. เป็นต้น

นายวราวุธ กล่าวถึงพิธีเปิดอนุสาวรีย์ บรรหาร ศิลปอาชา นายกรัฐมนตรีคนที่ 21 ที่อุทยานสัจจะ-กตัญญู ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสุพรรณบุรี ว่า ถือเป็นความภาคภูมิใจของประชาชนสุพรรณบุรี เพราะตลอดที่นายบรรหารมีชีวิตได้นำการพัฒนามาสู่พื้นที่ทำให้มีผู้ศรัทธาและเคารพจำนวนมาก ตนมองว่านายบรรหารเป็นนักการเมืองเพียงไม่กี่คนที่ทำงานเพื่อประชาชน ดังนั้น จึงได้รับความยกย่องและศรัทธาแม้จะถึงแก่อนิจกรรมไปแล้วครบ 3 ปี

“อนุสาวรีย์พ่อบรรหาร เป็นรูปหล่อทองสำริดเสมือนจริง สูง 2 เท่าของความสูงจริง ประมาณ 3 เมตร น้ำหนักประมาณ 930 กิโลกรัม สวมชุดซาฟารีกางเกงขาเต่อ ทั้งนี้บนกระเป๋าเสื้อหน้าอกด้านซ้ายบรรจุอัฐิของนายบรรหารไว้ด้วย โดยตั้งใจบรรจุไว้ที่ตำแหน่งของหัวใจ พร้อมกันนี้ ยังสอดแทรกความเป็นเอกลักษณ์ของนายบรรหารที่จะเหน็บปากกา 1 ด้าม ดินสอ 1 แท่ง กระดาษพับ 3 ครั้ง 1 แผ่นไว้ที่กระเป๋าเสื้อด้านซ้าย พร้อมข้อมือสวมนาฬิกายี่ห้อ Lazer ที่ใส่เป็นประจำราคาไม่กี่พันบาท สวมรองเท้าคู่ละ 400 บาท ส่วนงบประมาณก่อสร้างประมาณ 20 ล้านบาท โดย 10 ล้านบาทมาจากครอบครัวศิลปอาชา ส่วนอีก 10 ล้านบาทมาจากเงินบริจาคของประชาชน” นายวราวุธ กล่าว

ทั้งนี้ สำหรับอนุสาวรีย์นายบรรหาร ชาวสุพรรณบุรีรวบรวมเงินบริจาค และครอบครัวศิลปอาชาร่วมสมทบในส่วนที่ขาดเหลือเพื่อรำลึกถึงสิ่งที่นายบรรหารได้ทำประโยชน์ให้กับ จ.สุพรรณบุรีมาตลอดระยะเวลา 40 กว่าปี และยังเป็นตัวอย่างให้กับคนรุ่นหลังได้ศึกษาแนวคิด วิธีปฏิบัติตัวของนายบรรหารที่เริ่มจากการเป็นคนธรรมดา รวมทั้งบรรจุอัฐิไว้ที่หน้าอกด้านซ้ายของอนุสาวรีย์ด้วย โดยเป็นการริ่เริ่มของครอบครัวศิลปอาชาว่า ทุกวันที่ 23 เมษายน ซึ่งถือเป็นวันถึงแก่อนิจกรรมของนายบรรหารจะเป็นวันที่คนสุพรรณบุรีได้มารำลึกถึงนายบรรหารปีละครั้งที่อนุสาวรีย์แห่งนี้