‘เพนกวิ้น-บอล’มาศาลแขวงดุสิต นัดตรวจหลักฐาน คดีฝากพริกเกลือรั้วทำเนียบ-ทำกิจกรรมค้านเปิดเพลงหนักแผ่นดินหน้าทบ.

‘เพนกวิ้น-บอล’มาศาลแขวงดุสิต นัดตรวจหลักฐาน คดีฝากพริกเกลือรั้วทำเนียบ-ทำกิจกรรมค้านเปิดเพลงหนักแผ่นดินหน้าทบ. เผยเตรียมขอศาลออกหมายเรียกนายกฯ ผบ.ทบ.เป็นพยานในคดี

เมื่อวันที่ 22 เมษายน ที่ศาลแขวงดุสิต ศาลนัดพร้อมตรวจพยานหลักฐานคดีหมายเลขดำที่อ.370/62 และคดีหมายเลขดำที่อ.488/62 ที่พนักงานอัยการสำนักอัยการพิเศษฝ่ายคดีศาลแขวง (แขวงดุสิต) เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน นักศึกษาคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นจำเลยที่ 1 กับนายธนวัฒน์ วงศ์ไชย หรือบอล อดีตประธานสภานิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จำเลยที่ 2 ในความผิดตามพ.ร.บ.ชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 กรณีทั้งสองทำกิจกรรมฝากพริกเกลือหน้าทำเนียบรัฐบาล พื้นที่สน.ดุสิต และทำกิจกรรมคัดค้านการเปิดเพลงหนักแผ่นดินของพล.อ.อภิรัตช์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ที่ด้านหน้ากองทัพบก พื้นที่สน.นางเลิ้ง

จากกรณีเมื่อวันที่ 2 ก.พ.ที่ผ่านมา นายพริษฐ์ และนายธนวัฒน์ พร้อมกลุ่มเพื่อนนักศึกษาเดินทางไปยังทำเนียบรัฐบาล โดยจำเลยที่ 1 ออกมาโพสต์ข้อความว่า “เชิญชวนนักเรียน นิสิต นักศึกษาและพี่น้องประชาชนร่วมเดินขบวนเชิญให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เสรี สุจริต และเป็นธรรม” หลังจากนั้น จำเลยทั้ง 2 ได้เดินมายังประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล ก่อนฝากพริก เกลือ กระเทียม แขวนไว้บริเวณรั้วทำเนียบ ต่อมา พนักงานสอบสวน สน.ดุสิต ได้ดำเนินคดีตามความผิดตามพ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ผู้ใดประสงค์จะจัดการชุมนุมสาธารณะ ให้แจ้งการชุมนุมต่อผู้รับแจ้งก่อนเริ่ม การชุมนุมไม่น้อย 24 ชั่วโมง ซึ่งเป็นข้อหาที่มีโทษปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท ไม่มีโทษจำคุก

ส่วนอีกสำนวน คือเมื่อวันที่ 20 ก.พ. นายพริษฐ์ และนายธนวัตน์ ได้เดินทางไปอ่านแถลงการณ์โดยเรียกร้องให้ ผบ.ทบ. ยุติเปิดเพลิงหนักแผ่นดิน ในหน่วยทหารและวิทยุกองทัพ โดยผู้ต้องหาเปิดเพลง”ประเทศกูมี” ที่หน้า ทบ.ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.นางเลิ้ง จะดำเนินคดีกับทั้งสองในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ.2558 ในชั้นสอบสวนผู้ต้องหาทั้งสองให้การปฏิเสธทั้ง 2 คดี

นายพริษฐ์ เปิดเผยว่า ในกรณีที่ไปฝากพริกเกลือด้านหน้าทำเนียบ เราได้ประกาศยกเลิกกิจกรรมล่วงหน้าไปแล้ว และจัดเองโดยไม่ได้เปิดให้คนภายนอกมาร่วมด้วย ที่สำคัญเราไม่ได้จัดการชุมนุม แค่ตอบรับคำเชิญของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่บอกว่า “มึงลองมาไล่ดูสิ” ดังนั้น ตนอาจจะทำเรื่องขอให้ศาลเบิกตัวพล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นพยานในคดีนี้ เพื่อมาสอบถามว่า ได้ท้าทายให้ประชาชนออกมาไล่ที่ทำเนียบจริงหรือไม่ ส่วนกรณีเพลงหนักแผ่นดินที่ตนไปให้ความรู้กับพล.อ.อภิรัตช์ ก็ยืนยันเหมือนกันว่า เราไม่ได้ไปกองทัพบกวันนั้นเพื่อชุมนุมสาธารณะ เป็นเพียงการสื่อสารกับพล.อ.อภิรัตช์ รู้คนเดียวว่าเพลงหนักแผ่นดินนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งเพลงนี้ได้นำมาใช้ปราบปราบนักศึกษาในอดีต ตนจึงอาจจะขอเบิกตัวพล.อ.อภิรัตช์มาเป็นพยานว่า ได้ความรู้จากกิจกรรมที่เราทำไปแล้วหรือไม่

มติชนออนไลน์