เมื่อวันที่ 19 เมษายน นายสมชัย ศรีสุทธิยากร สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ อดีตคณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) โพสต์แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊ก “ Somchai Srisutthiyakorn “ ระบุว่า สถาปนิกทางการเมืองผู้ไม่เคยรับผิดชอบต่อผลงาน ภาวะการเมืองที่เป็นปัญหาอยู่ในปัจจุบัน ล้วนแต่เป็นผลการออกแบบที่อาศัยจินตนาการว่า ทุกอย่างจะดีขึ้นหากได้ใช้กฎเกณฑ์กติกาที่คณะของตนทำการออกแบบ มาดูกันว่า ผลงานการออกแบบในเรื่องการเลือกตั้ง ทำให้ได้ผลในทางที่ดีต่อการปฏิรูปการเมืองไทย จริงหรือไม่

1. เปลี่ยนบัตรเลือกตั้งเป็นใบเดียว ให้หมายเลขพรรคแตกต่างกันไปในแต่ละเขต หวังให้คนต้องคิดไตร่ตรองให้มากขึ้น ให้รู้จักผู้สมัครให้มากขึ้น ไม่จำพรรคให้จำผู้สมัครแทน ผลคือ คนกาบัตรโดยไม่สนใจผู้สมัคร คิดอย่างเดียวว่าจะเอาพรรคที่เอาประยุทธ์หรือไม่เอาประยุทธ์

2. เซ็ตซีโร่ กกต.ชุดเก่า กลัวเรื่องปลาสองน้ำเพราะต้องเพิ่มจาก 5 เป็น 7 คน กำหนดสเปคขั้นมหาเทพ โดยเชื่อว่าสำนักงาน กกต.สามารถรองรับงานที่ต่อเนื่องได้ ผลคือ มหาเทพโดนด่าทั้งบ้านทั้งเมืองด้วยความอ่อนประสบการณ์ในการจัดการเลือกตั้ง

3. ยุบเลิก กกต.จังหวัด ให้มี ผู้ตรวจการเลือกตั้ง มีค่าตอบแทนให้นับแสนต่อคนต่อเดือน วันนี้แทบไม่มีใครเห็นผลงานของผู้ตรวจการเลือกตั้ง

4. เขียน กม.ลูกให้มีสูตรการคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อที่ขัดกับรัฐธรรมนูญ จน กกต.ผู้ต้องนำสูตรไปใช้ไม่กล้าใช้ ต้องไปถามศาลรัฐธรรมนูญ

5. ขยายเวลาประกาศผลหลังเลือกตั้ง จาก 30 วันเป็น 60 วัน แต่กลับติดกับดัก 150 วันหลัง พรป.ส.ส.มีผลใช้บังคับ ทำให้ กกต.ไม่กล้าเสี่ยง ต้องรีบประกาศภายในวันที่ 9 พ.ค. 2562 ใบเหลือง ใบแดง ใบส้ม อาจเป็นหมัน เพราะพิจารณาไม่ทัน

6. กลัวพรรคใหญ่จะเข้มแข็งได้เสียงสภามาก กลัวเผด็จการรัฐสภา เลยสร้างกลไกการเลือกตั้งที่ให้พรรคใหญ่ได้ ส.ส.ไม่มาก ผลคือ ได้รัฐบาลหลายพรรคที่เสียงปริ่มน้ำ จะตั้งรัฐบาล พรรคใหญ่ก็ต้องง้อพรรคเล็ก และยังไม่ทันได้เริ่มงานก็พูดเรื่องการเลือกตั้งใหม่แล้ว

สถาปนิกชุดนี้ เอาแต่ใจตัวเอง คิดว่าอายุมากแล้วรู้มาก บอกอะไรก็ไม่เคยฟัง วันนี้บ้านเมืองมีปัญหา คนกลับไป ด่า กกต.ทั้งๆที่เขาเป็นปลายเหตุ อย่าลืมนึกถึงสถาปนิกและคนจ้างสถาปนิกด้วย

มติชนออนไลน์