รองโฆษกฯเพื่อชาติ ระบุ อายแทน “ธนกร-พปชร.” ตรรกะบิดเบี้ยว ประกาศตั้งรบ.-เมินปัญหา รธน.60 สงสาร “บิ๊กตู่” รับกรรม ถูกประฌามเข้าสู่อำนาจไม่ชอบธรรม

เมื่อวันที่ 18 เมษายน นายรยุศด์ บุญทัน รองโฆษกพรรคเพื่อชาติ(พช.) กล่าวถึงกรณีที่ นายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ระบุนายกรัฐมนตรีจะต้องเป็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาเท่านั้น ซึ่งเป็นไปตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ อย่าโทษกติกาเหมือนคนแพ้แล้วพาล ชี้พวกมีคดีอย่าโทษใคร ทำอะไรไว้ก็ต้องรับกรรม ว่า ตนรู้สึกสงสัย และอยากถามนายธนกร เหลือเกินว่า เราอยู่ในประเทศเดียวกันจริงหรือไม่ เหตุใดจึงยังมีคนที่ยังไม่เห็นหรือทำเป็นไม่เห็นปัญหาของกติการัฐธรรมนูญ 2560 ที่ก่อปัญหามากมาย จนอาจทำให้เกิดเดดล็อกทางการเมืองได้

“ข้ออ้างที่ว่ารัฐธรรมนูญ 2560 ผ่านประชามติมาแล้วนั้น เมื่อมาถึงวันนี้ยิ่งเห็นได้ชัดเจนว่า การทำประชามติ ภายใต้กติกาที่มีปัญหา ภายใต้การควบคุมของรัฐบาลทหาร คสช. ที่มาจากการทำรัฐประหารนั้น ทำให้ความเชื่อถือของการประชามติแทบไม่หลงเหลืออยู่เลย อะไรก็ตามที่เริ่มด้วยความไม่ชอบธรรมจะให้ผลเป็นที่ยอมรับคงเป็นเรื่องที่ยาก และยิ่งกรณีที่รัฐธรรมนูญระบุให้ ส.ว.250 คน สามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ต้องบอกว่าไม่มีประเทศไหนในโลกนี้เขาทำกัน แต่งตั้งคนมาเลือกตัวเองเป็นนายก อำนาจของ ส.ส. ที่มาจากการเลือกตั้ง เท่ากันกับอำนาจ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง ดังนั้น ตนรู้สึกระอายเหลือเกิน ที่นายธนกร ยังกล้าที่จะกล่าวเช่นนี้ได้”นายรยุศด์ กล่าว

นายรยุศด์ กล่าวอีกว่า เราได้พูดถึงปัญหาของรัฐธรรมนูญ 2560 มานานแล้ว มิได้มาพูดกันภายหลังวันเลือกตั้ง การที่นายธนกรใช้คำว่า แพ้แล้วพาลคงไม่ถูกต้องนัก เพราะ พรรคการเมืองที่ได้จำนวน ส.ส.มากเป็นอันดับหนึ่ง คือ พรรคเพื่อไทย และตอนนี้ก็ยังไม่มีพรรคใดที่สามารถประกาศชัดได้ว่า สามารถตั้งรัฐบาลได้อย่างแน่นอน จะบอกว่าใครแพ้ ใครชนะก็คงยังไม่ได้ แต่ถ้าเบื้องต้นระหว่างยังตั้งรัฐบาลไม่ได้นี้ คนชนะก็คงอยู่ที่ฝ่ายประชาธิปไตยอยู่ดี เพราะประเทศเราเป็นการเลือกตั้งระบบตัวแทน คะแนนป็อปปูล่าร์โหวต ไม่สามารถนำมาใช้อ้างได้ และยิ่งไม่ต้องไปเปรียบเทียบกับประเทศประชาธิปไตยที่เจริญแล้ว หลายๆประเทศเขาก็ไม่ได้ใช้หลักคิดเหมือนที่นายธนกร และ พรรค พปชร. คิดกัน ตรรกะบิดเบี้ยว ซึ่งตนไม่รู้ว่าจะหาคำพูดอะไรมาบรรยายความรู้สึกที่มีต่อนายธนกร และพรรค พปชร. ในเรื่องนี้ได้

นายรยุศด์ กล่าวอีกว่า “ระหว่างนี้ ผู้มีอำนาจอยากจะสั่งการอะไรก็รีบทำไป เพราะก็เห็นกันอยู่แล้วว่าเกิดกระบวนการมากมายเพื่อรวบรวมเสียงให้พรรคฝ่ายสืบทอดสามารถตั้งรัฐบาลได้ โดยไม่คำนึงถึงวิธีการ หลักการใด ๆ ตนรู้สึกสงสาร พล.อ.ประยุทธ์ อยู่เหมือนกัน ที่จะต้องถูกผู้คนกล่าวหา ประณาม ว่าเข้าสู่อำนาจด้วยความไม่ชอบธรรม ไม่สง่างาม ดังคำที่นายธนกรว่าไว้ ทำอะไรไว้ต้องรับกรรม เป็นเรื่องจริง ตนเห็นด้วย ยกตัวอย่างปรากฎการณ์ที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ที่ถูกดำเนินคดีหลาย ๆ คดี แต่กระแสความนิยมยิ่งดีขึ้นเรื่อย ๆ มันสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาและวิกฤตศรัทธาต่อระบบและกระบวนการยุติธรรมของไทย ภายใต้รัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร หรือ คสช. นั่นเอง”

มติชนออนไลน์